“เกลน ฟราย” ผู้ยึดถือความสมบูรณ์แบบ

 

เกลน ฟราย มือกีตาร์ผู้ช่วยให้ ดิ อีเกิลส์ กลายเป็นหนึ่งในศิลปินที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์วงการดนตรีร็อกของอเมริกา ด้วยเพลงฮิตอย่างเช่น “โฮเทล แคลิฟอร์เนีย” เสียชีวิตลงแล้วเมื่อวันที่ 18 มกราคมที่ผ่านมา ขณะมีอายุได้ 67 ปี

“เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สุดที่เราต้องประกาศถึงการจากไปของเพื่อนสนิทของเรา ผู้ก่อตั้งวงอีเกิลส์ เกลน ฟราย ในนครนิวยอร์ก” ดิ อีเกิลส์ ระบุไว้บนเว็บไซต์ของทางวง

ดิ อีเกิลส์ ระบุว่า ฟรายเสียชีวิตจากอาการแทรกซ้อนของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ การอักเสบเฉียบพลันของลำไส้ใหญ่ และปอดบวม

Advertisement

“พวกเราทั้งหมดอยู่ในภาวะช็อก ไม่อยากเชื่อ และเศร้าโศกเสียใจอย่างที่สุด” ดอน เฮนลีย์ เพื่อนร่วมวง ดิ อีเกิลส์ ระบุในแถลงการณ์

“เขาเป็นเหมือนหัวเทียนจุดระเบิด เป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ เขามีความรอบรู้ในเรื่องเพลงป๊อปอย่างกว้างขวาง และมีทัศนคติในการทำงานที่ไม่ยอมแพ้”

ดิ อีเกิลส์ ที่นำโดยฟรายและเฮนลีย์ มือกลองและนักร้องนำ ครองอันดับในชาร์ตเพลงอเมริกันร็อกตลอดช่วงยุคทศวรรษที่ 1970 ด้วยเพลงฮิตอย่าง “เทก อิต อีซี”, “วัน ออฟ ดีส ไนต์ส” และ “โฮเทล แคลิฟอร์เนีย” เพลงเหล่านี้ถูกนำไปคัฟเวอร์บ่อยครั้งและถือว่าคลาสสิกมาจนกระทั่งทุกวันนี้

Advertisement

ดิอีเกิลส์ เป็นผู้บุกเบิกซาวด์ดนตรีแบบ “เวสต์โคสต์” ที่เป็นร็อกเจือกลิ่นคันทรีจางๆ ซึ่งมีอิทธิพลต่อวงการดนตรีป๊อปอเมริกันในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970

สมาคมผู้ประกอบกิจการเพลงของสหรัฐอเมริกา (อาร์ไอเอเอ) ระบุว่า อัลบั้มรวมฮิตของ ดิ อีเกิลส์ ที่ออกวางจำหน่ายเมื่อปี 1975 ขายได้มากกว่า 29 ล้านชุดในสหรัฐอเมริกา มากกว่าอัลบั้มไหนๆ ยกเว้นเพียงแค่ “ทริลเลอร์” ของ ไมเคิล แจ๊กสัน เท่านั้น

ฟรายเกิดที่เมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ.1948 เป็นลูกชายของช่างซ่อมเครื่องยนต์ วงดิ อีเกิลส์ ก่อตั้งเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 และได้รับการบรรจุชื่อเข้าไว้ในหอเกียรติยศร็อกแอนด์โรลเมื่อปี 1998

ดิ อีเกิลส์ ได้รางวัลแกรมมี่อวอร์ดส์ 6 สาขา ที่มีตั้งแต่ บันทึกเสียงยอดเยี่ยมจากเพลง “โฮเทล แคลิฟอร์เนีย” ในปี 1977 ไปจนถึง เพลงบรรเลงยอดเยี่ยมสาขาเพลงป๊อปจาก “ไอ ดรีมด์ แธร์ วอส โน วอร์” ในปี 2008

สถาบันศิลปะวิทยาการด้านการบันทึกเสียงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาที่เป็นผู้มอบรางวัลแกรมมี่ ระบุไว้ในแถลงการณ์ว่า การเสียชีวิตของฟรายเป็น “การสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการเพลง” และว่า “เขาเป็นส่วนสำคัญของหนึ่งในวงดนตรีที่ถูกกล่าวขานถึงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ดนตรีป๊อป”

ดิอีเกิลส์ แยกวงหลังการแสดงคอนเสิร์ตหาทุนสนับสนุนกิจกรรมทางการเมืองในปี 1980 ที่เป็นการเผยให้เห็นถึงความคิดที่ไม่ตรงกันภายในวง ซึ่งความตึงเครียดนั้นถูกทำให้เลวร้ายยิ่งขึ้นจากผลของการใช้ยาเสพติดและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แม้ทางวงจะไม่มีภาพลักษณ์เป็น “แบดบอย” เหมือนศิลปินร่วมวงการบางราย

ฟรายยังคงความกำกวมจนถึงวาระสุดท้ายเกี่ยวกับความหมายของเพลง “โฮเทล แคลิฟอร์เนีย” ซึ่งมีการตีความไปอย่างหลากหลาย โดยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ซานฟรานซิสโกโครนิเคิลเมื่อปี 2003 ฟรายระบุว่า ความกำกวมถือเป็น “เครื่องมือสำคัญของนักแต่งเพลง”

“ผมเห็นไฟและผมเห็นฝน” ฟรายกล่าวถึงเนื้อเพลงท่อนหนึ่งของ เจมส์ เทย์เลอร์ นักร้องนักแต่งเพลงชาวอเมริกัน “นั่นแปลว่าอะไรกันแน่? แต่มันได้ผล มันหมายถึงอะไรก็ได้ที่คนฟังอยากให้เป็น”

ฟรายและเฮนลีย์ต่างประสบความสำเร็จในการเป็นศิลปินเดี่ยวในยุคทศวรรษที่ 1980 ทั้งคู่ แต่ทั้งคู่ก็มากลับมารวมตัวกันในนาม ดิ อีเกิลส์ อีกครั้งในปี 1994

ดิ อีเกิลส์ แสดงคอนเสิร์ตด้วยกันครั้งสุดท้ายที่รัฐหลุยเซียนาเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว เป็นการสรุปการออกทัวร์คอนเสิร์ตเป็นเวลา 2 ปี ที่ตามมาด้วยภาพยนตร์สารคดีของทางวง

แฟนเพลงและบรรดาผู้คนในวงการดนตรีต่างไว้อาลัยให้กับการจากไปของฟราย บ็อบ ซีเกอร์ ศิลปินร็อกจากดีทรอยต์ คนบ้านเดียวกับฟรายบอกกับนิตยสารบิลบอร์ดว่า ฟรายถือเป็นผู้ยึดถือความสมบูรณ์แบบและเป็นแรงขับเคลื่อนของวงดิ อีเกิลส์

“ทุกครั้งที่ผมเห็นเขาเมื่อไม่นานมานี้ยังคงน่าอัศจรรย์มากที่เขายังทำอย่างนั้นได้ แม้ว่าจะอายุมากขนาดนี้แล้วก็ตาม”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image