สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เครื่องบินของไลอ้อนแอร์ ที่บินจากกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ไปยังเมืองปังกัล ปีนัง ของอินโดนีเซีย ได้ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม และประสบเหตุตกลงทะเล หลังจากทะยานออกจากกรุงจาการ์ตาได้ไม่นาน
ทั้งนี้ เครื่องบินที่ประสบเหตุตกครั้งนี้ เป็นเครื่องบิน โบอิ้ง 737 แม็กซ์-8 เที่ยวบินที่ เจที610 ขาดการติดต่อกับศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ เมื่อเวลาประมาณ 06.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าบนเครื่องมีผู้โดยสารและลูกเรือกี่คน ขณะที่ทางการอินโดนีเซียได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัยลงพื้นที่แล้ว
ในเวลาต่อมา สำนักงานค้นหาและกู้ภัยอินโดนีเซียแจ้งว่า เครื่องบินลำดังกล่าว ได้ประสบเหตุตกลงในทะเล โดยนายยูซุฟ ลาติฟ โฆษกของสำนักงานฯ กล่าวยืนยันว่า เครื่องบินประสบเหตุตกจริง
โดยเจ้าหน้าที่คนหนึ่งเปิดเผยว่า เครื่องบินขาดการติดต่อไปหลังจากออกจากสนามบินจาการ์ตาได้เพียง 13 นาที แต่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าบนเครื่องบินมีผู้โดยสารและลูกเรือรวมกี่คน
ล่าสุด เอเอฟพีรายงานว่า นายซินดู ราฮายู ผู้อำนวยการบริหารของสำนักงานการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคมอินโดนีเซียแจ้งว่า บนเครื่องบินลำดังกล่าวมีผู้โดยสารและลูกเรืออยู่ทั้งสิ้น 188 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้โดยสารที่เป็นผู้ใหญ่ 178 คน เด็ก 1 คน และทารก 2 คน ส่วนลูกเรือ มีนักบิน 2 คน และพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอีก 5 คน
นายราฮายู กล่าวด้วยว่า เครื่องบินได้ขอบินกลับสนามบิน ก่อนหน้าที่จะหายไปจากจอเรดาร์
ข่าวระบุว่า อุบัติเหตุเครื่องบินตกครั้งใหญ่ของอินโดนีเซียล่าสุด คือเมื่อเดือนธันวาคม 2557 เมื่อเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ของสายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย ประสบเหตุตกทะเล ขณะทะยานออกจากเมืองสุราบายา ไปยังสิงคโปร์ โดยผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 162 คนที่อยู่บนเครื่องบิน เสียชีวิตทั้งหมด
