เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าโศกนาฏกรรมเครื่องบินโดยสารของสายการบินไลอ้อนแอร์ เที่ยวบินที่เจที 610 บรรทุกผู้โดยสารพร้อมลูกเรือรวม 189 คน ประสบเหตุตกนอกชายฝั่งเกาะชวาเมื่อสัปดาห์ก่อน เป็นผลให้ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำนี้เสียชีวิตทั้งหมดว่า คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติ(เอ็นทีเอสซี)ของอินโดนีเซีย เปิดเผยข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบกล่องบันทึกข้อมูลทางการบินของเครื่องบินโดยสารลำนี้ที่ทีมนักประดาน้ำกู้ขึ้นมาได้จากบริเวณจุดตก เบื้องต้นบ่งชี้ให้เห็นว่ามีปัญหาขัดข้องเกิดขึ้นกับอุปกรณ์วัดความเร็วของเครื่องบินลำนี้ทั้งที่เกิดในเที่ยวบินนี้และใน 3 เที่ยวบินที่มีการปฏิบัติการก่อนหน้านี้
นายโซร์จันโต จาห์โจโน หัวหน้าเอ็นทีเอสซี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในประเด็นนี้ว่า มี 4 เที่ยวบินที่มีปัญหาเกิดขึ้นกับอุปกรณ์วัดความเร็วของเครื่องบิน ซึ่งเมื่อเกิดปัญหาขึ้น นักบินจะเขียนบันทึกถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเอาไว้ จากนั้นฝ่ายเทคนิคจะเป็นผู้ทำการซ่อมแซม ก่อนที่จะมีการประกาศว่าเครื่องบินลำดังกล่าวได้มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับทำการบินต่อไป
หัวหน้าเอ็นทีเอสซีกล่าวว่าจะมีการสอบสวนในประเด็นต่อไปว่าอะไรเป็นสาเหตุให้อุปกรณ์ตัวนี้มีปัญหาขัดข้องและได้มีการซ่อมแซมให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ปลอดภัยหรือไม่ รวมถึงมีการแทนที่อุปกรณ์ที่ชำรุดหรือไม่
อย่างไรก็ดีเอ็นทีเอสซีไม่ได้ชี้ชัดว่าปัญหาขัดข้องที่เกิดกับอุปกรณ์ตัวนี้ เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นกับเที่ยวบินเจที610 หรือไม่ เพียงแต่กล่าวว่ายังคงต้องรอการค้นหากล่องบันทึกทางการบิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุทางการบินครั้งเลวร้ายที่สุดอีกครั้งหนึ่งนี้ของอินโดนีเซียต่อไป