เจน ฟอนดา นางเอกฮอลลีวู้ดรุ่นใหญ่วัย 80 ปี และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ให้สัมภาษณ์ว่าการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนเป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญมากที่สุดในชีวิตของเธอ
“การเลือกตั้งวันที่ 6 พฤศจิกายน เป็นการเลือกตั้งที่มีความสำคัญมากที่สุดในชีวิตฉัน มันจะมากขนาดไหน ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้ฉันแทบหายใจไม่ออกเลย ” นางเอกรุ่นใหญ่ให้สัมภาษณ์ก่อนจะเดินทางไปที่รัฐมิชิแกนกับ ทาราจิ พี. เฮนสัน นักร้อง นักแสดงวัย 48 เพื่อช่วยกันรณรงค์ให้ผู้คนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งในรัฐ “สวิง สเตท” หรือรัฐที่ยังคาดเดาไม่ได้ว่า ใครจะชนะเลือกตั้ง
ทั้งนี้ระหว่างเดินทางไปรับรางวัล Lumiere ที่ประเทศฝรั่งเศส ฟอนดา ยังกล่าวต่อผู้ชมว่าก่อนหน้านี้เธอไม่เคยเชื่อเลยว่า จะมีความไม่พอใจต่อผู้หญิงมากมายถึงขนาดนี้ และการเหยียดผิวที่รุนแรงซุกอยู่ภายในสหรัฐอเมริกา นับแต่การเลือกตั้งเมื่อปี 2559 ที่ประธาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง
ทั้งเล่าว่า ทุกวันนี้เธออุทิศตัวทำงานกับกลุ่มนักเคลื่อนไหวหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่ม Restaurant Opportunities Center United (ROC) เพื่อหาทางช่วยเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำในธุรกิจการให้บริการด้านอาหาร ซึ่งฟอนดาเล่าว่า มีแรงงานในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกาที่ยังไม่ได้รับค่าแรงขั้นต่ำ ถ้าหากแรงงานเหล่านั้นยังได้รับเงินทิป
นางเอกรุ่นใหญ่ ซึ่งเคยแต่งงานกับ เท็ด เทอร์เนอร์ ผู้ก่อตั้งเครือข่ายสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น ใช้ชีวิตร่วมกัน 10 ปีก่อนจะหย่ากันเมื่อปี 2544 ยังพูดถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่าน่าจะมีปัญหาทางสุขภาพจิต ที่ทำให้กลายเป็นคนที่ไร้เมตตาต่อผู้อื่น ซึ่งเธอกำลังพยายามที่จะทำใจให้มีเมตตาต่อประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากลำบากใจสำหรับเธอ แต่เธอกำลังพยายามทำอยู่ ”
“มาร์ติน ลูเธอร์ คิง เคยกล่าวว่า “ฉันไม่ต้องชอบคุณ แต่ฉันต้องรักคุณ” ซึ่งมันไม่ได้ทำได้ง่ายๆในช่วงเวลานี้ “
