โฆษกหน่วยงานป่าไม้และป้องกันไฟป่าแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า พบศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟป่าในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย เพิ่มขึ้นอีก 14 ราย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตจากไฟป่าขนาดใหญ่ ที่เรียกกันว่า “แคมป์ไฟร์” เพิ่มขึ้นเป็น 23 รายแล้ว
รายงานระบุว่าร่างผู้เสียชีวิตที่พบล่าสุดพบภายในและโดยรอบชุมชนพาราไดซ์ ชุมชนบนภูเขาที่อยู่ห่างจากเมืองซาคราเมนโต ไปทางเหนือราว 145 กิโลเมตร โดยรายละเอียดเกี่ยวกับการเสียชีวิตยังไม่มีการเปิดเผย ขณะที่ร่างของผู้เสียชีวิตถูกเผาจนยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ในเวลานี้ รายงานระบุด้วยว่าร่างผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่งพบในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาพบเสียชีวิตใกล้กับรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้โดยเชื่อว่า ผู้คนต่างต้องทิ้งรถและวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไปบนถนนเส้นเดียวที่มี
ล่าสุด “แคมป์ไฟร์” ไฟป่าที่เริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้เผาพื้นที่ไปแล้วถึง 100,000 เอเคอร์ เผาบ้านเรือนและร้านค้าไปแล้วมากกว่า 6,700 หลังคาเรือน นับเป็นความเสียหายมากที่สุดเท่าที่เคยมีการเก็บสถิติไฟป่าในแคลิฟอร์เนีย ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่อาจเพิ่มสูงขึ้นอีกก็ทำให้ไฟป่าครั้งนี้เป็นครั้งที่มียอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่ง มีเพียงไฟป่าในปี 1933 และ 1991 เท่านั้นที่มียอดผู้เสียชีวิตสูงกว่า
ด้านผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เสียอย่างกาวิน นิวซอม ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว โดยล่าสุดทีมดับเพลิงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น และมีการส่งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงลงพื้นที่แล้ว 3,200 นาย ในจำนวนนี้ 3 นายได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่าไฟป่า “วูลซีย์ไฟร์” ที่ก่อตัวขึ้นที่เมืองมาลิบู เมืองชายฝั่งตอนใต้ห่างจากแคลิฟอร์เนียราว 800 กิโลเมตร ได้ขยายตัวกว้างขึ้นเป็นสองเท่าในช่วงเวลาข้ามคืน โดยล่าสุดมีการสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ขณะที่ไฟป่าเผาทำลายบ้านเรือนไปจำนวนหนึ่ง หลังจากเผาพื้นที่ป่าไปแล้วกว้างถึง 70,000 เอเคอร์ ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิต 2 ราย อย่างไรก็ตามยังไม่ชัดเจนว่าเป็นการเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าหรือไม่
