สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน นายมหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียวัย 93 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมสุดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศสิงคโปร์ กล่าวถึงการที่นางออง ซาน ซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมา ถูกแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือองค์การนิรโทษกรรมสากล เรียกคืนรางวัล “ทูตแห่งมโนธรรมสำนึก” ที่เคยมอบให้แก่นางซูจี เนื่องจากการที่นางซูจีเพิกเฉยต่อการกวาดล้างชาวมุสลิมโรฮีนจาในเมียนมา ว่า ตนรู้สึกผิดหวังกับการที่นางซูจี ไม่สามารถปกป้องชาวโรฮีนจาได้ และว่า การตอบสนองต่อการเข่นฆ่าชาวโรฮีนจาของนางซูจีเป็นสิ่งที่ “โต้แย้งไม่ได้”
โดยมหาธีร์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนที่จะขึ้นไปถ่ายภาพหมู่ร่วมกับผู้นำอาเซียน ซึ่งมีนางซูจีร่วมอยู่ด้วย ว่า “คนบางคนถูกควบคุมตัวก่อนที่จะรู้จักกับความเจ็บปวดและไม่ควรจะโทษมันบนความโชคร้าย” ซึ่งมหาธีร์หมายถึงนางซูจีที่ถูกรัฐบาลทหารพม่าสั่งกักบริเวณอยู่ในบ้านเป็นเวลาหลายปี
“แต่กลับดูเหมือนว่า ออง ซาน ซูจี พยายามที่จะปกป้องในเรื่องที่โต้แย้งไม่ได้” มหาธีร์กล่าว ก่อนจะร้องขอให้เมียนมายอมรับชาวโรฮีนจาให้เป็นพลเมืองของเมียนมา โดยระบุว่า เมื่อครั้งที่มาเลเซียได้อิสรภาพเมื่อปี 1957 มีผู้คนที่มีเชื้อสายต่างชาติ แต่มาเลเซียก็รับทุกคนเอาไว้ ตอนนี้ทุกคนเป็นพลเรือนของมาเลเซีย คนเหล่านี้มีบทบาทเต็มที่ในด้านการเมืองของประเทศ มีเสรีภาพและไม่ได้ถูกควบคุมตัวด้วยเหตุผลเรื่องเชื้อชาติหรือสิ่งอื่นใด
(อ่านข่าว แอมเนสตี้ถอดรางวัลสูงสุด ‘ทูตแห่งมโนธรรม’ ออง ซาน ซูจี)
