เกิดเหตุสลดท่ามกลางการชุมนุมประท้วงของกลุ่ม ‘เสื้อกั๊กเหลือง’ ของฝรั่งเศสเมื่อมีหญิงรายหนึ่งเสียชีวิต ท่ามกลางผู้ชุมนุมที่ออกมาชุมนุมต่อต้านประธานาธิบดีเอมมานูแอล มาครง โดยชี้ว่าเป็นต้นเหตุของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้นายมาครง ลาออก
รายงานระบุว่ามีผู้ชุมนุมเกือบ 283,000 คนเข้าร่วมชุมนุมใน 2,000 จุดทั่วประเทศโดยผู้ชุมนุมกดดันด้วยการปิดถนน วงเวียน และทางหลวงสำคัญหลายแห่งเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดการกระทบกระทั่งกันระห่างผู้ชุมนุมและผู้ใช้รถใช้ถนน โดยเหตุหญิงรายหนึ่งที่เสียชีวิตเกิดขึ้นเพราะหญิงรายหนึ่งที่จะขับรถพาลูกไปโรงพยาบาล เกิดตกใจขณะถูกผู้ชุมนุมล้อมและพลาดเหยียบคันเร่งชนผู้ชุมนุมเสียชีวิต
นอกจากนี้รายงานระบุว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บแล้ว 227 ราย โดยในจำนวนนี้ 7 รายบาดเจ็บสาหัส ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวผู้ชุมนุมไว้ได้ 117 รายในจำนวนนี้ 73 รายถูกคุมขัง
ทั้งนี้กลุ่มผู้ประท้วงที่บางส่วนเดินขบวนมุ่งหน้าสู่พระราชวังเซลิเซ ทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส ออกมาเดินขบวนเนื่องจากไม่พอใจกับการเก็บภาษีเชื้อเพลิงที่ผู้ชุมนุมระบุว่าเป็นการขูดรีดชนชั้นล่างและชนชั้นกลาง ส่งผลให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นมากที่สุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงหลังปี 2000 เป็นต้นมา นอกจากนี้ผลสำรวจความคิดเห็นประชานยังพบด้วยว่ามีประชาชนถึง 73 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วยกับการชุมนุมดังกล่าว
