สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานคำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมตุรกีที่ระบุว่า ทีมสังหารนายจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวชาวซาอุดีอาระเบียที่สถานกงสุลใหญ่ซาอุดีอาระเบีย ณ นครอิสตันบุล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา อาจนำชิ้นส่วนร่างของนายคาช็อกกีที่ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ออกนอกประเทศตุรกีไปแล้ว โดยบรรจุไปในกระเป๋าเดินทาง
“หนึ่งในแนวทางที่มีความเป็นไปได้ คือทีมสังหารได้เดินทางออกจากตุรกีหลังก่อเหตุ 3-4 ชั่วโมง พวกเขาได้นำร่างของคาช็อกกีหั่นแยกส่วนเป็นชิ้นๆ ใส่ในกระเป๋าเดินทาง แล้วนำออกไปโดยไม่มีปัญหาเนื่องจากได้รับเอกสิทธิคุ้มกันทางการทูต”รัฐมนตรีกลาโหมตุรกีกล่าว
ทั้งนี้ทางการตุรกีระบุว่าทีมสังหารและเก็บกวาดทำลายหลักฐานประกอบด้วยคน 15 คน โดยมีการแยกชิ้นส่วนร่างของนายคาช็อกกีออกมา ทางการตุรกียังเรียกร้องให้มีการสอบสวนว่าชิ้นส่วนร่างของนายคาช็อกกีถูกนำไปแช่เพื่อทำลายในน้ำกรดด้วยหรือไม่ เนื่องจากนับตั้งแต่เขาหายตัวไปจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคนตรวจพบชิ้นส่วนร่างกายของนายคาช็อกกีแม้แต่ชิ้นเดียว
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐออกมาแสดงจุดยืนว่า เขาไม่ต้องการที่จะฟังเทปบันทึกเสียงการสังหารนายคาช็อกีที่ผู้นำหลายประเทศระบุว่าได้ฟังไปแล้ว
“ผมไม่ต้องการฟังเทปนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผมต้องฟัง ผมรู้รายละเอียดทุกอย่างที่อยู่ในเทปนั้นโดยไม่จำเป็นต้องฟัง เพราะมันเต็มไปด้วยความโหดร้ายรุนแรง”ทรัมป์กล่าว
ทรัมป์ยืนยันว่าเขาต้องการที่จะรักษาความเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดระหว่างสหรัฐและซาอุดีอาระเบีย แม้จะเกิดการสังหารนายคาช็อกกี รวมถึงมีคำถามเกี่ยวกับบทบาทของมกุฎราชกุมารซาอุดีอาระเบีย ซึ่งถูกระบุว่าอยู่เบื้องหลังคำสั่งคฆ่านายคาช็อกกีดังกล่าว
