สำนักข่าวรอยเตอร์และเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุกลุ่มมือปืนอย่างน้อย 4 คน บุกเข้าไปในสถานกงสุลจีน ที่นครการาจี ประเทศปากีสถาน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน แต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดกั้นเอาไว้ได้บริเวณด่านตรวจ จนเกิดการยิงปะทะกัน และทำให้ตำรวจเสียชีวิต 2 นาย และบาดเจ็บสาหัส 1 นาย
เจ้าหน้าที่ตำรวจอาวุโสนายหนึ่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า มีคนร้าย 2 คนบุกเข้าไปภายในบริเวณยื่นเรื่องขอทำวีซ่าภายในสถานกงสุล แต่บรรดาเจ้าหน้าที่ทูตจีนในสกานกงสุลทั้งหมดปลอดภัยดี และสามารถควบคุมสถานการณ์ต่างๆได้หมดแล้ว
หลังเกิดเหตุ กลุ่มกองกำลังเสรีภาพบาลูจิสถาน (บีแอลเอ) ซึ่งเป็นกลุ่มกองกำลังแบ่งแยกดินแดนจากจังหวัดบาลูจิสถาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของปากีสถาน ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งจังหวัดบาลูจิสถานเป็นศูนย์กลางสำคัญของโครงการใหญ่ที่จีนลงทุนในประเทศปากีสถาน โดยนายจีอันด์ บาล็อก โฆษกของบีแอลเอ ให้สัมภาษณ์เอเอฟพี ทางโทรศัพท์ ระบุว่า กลุ่มบีแอลเอเป็นผู้ก่อเหตุโจมตีดังกล่าว เพราะมองว่าชาวจีนเป็นพวกกดขี่ขมเหง เช่นเดียวกับกองทัพปากีสถาน
ทั้งนี้ กลุ่มบีแอลเอ เป็นกลุ่มติดอาวุธเพียงกลุ่มเดียวที่ปฏิบัติการอยู่ในจังหวัดบาลูจิสถาน ซึ่งเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของปากีสถานและยังเป็นจังหวัดที่ยากจนที่สุด ซึ่งมีชนชาติต่างๆที่หลากหลาย
สำหรับจีน ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดกับปากีสถานมากที่สุด และมีการลงทุนในปากีสถานหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นการลงทุนในโครงการใหญ่ของโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อหาทางเชื่อมโยงมณฑลซินเจียงของจีน เข้ากับท่าเรือกวาดาร์ ในจังหวัดบาลูจิสถาน ในโครงการระเบียงเศรษฐกิจจีน-ปากีสถาน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดในโครงการริเริ่ม “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ของจีน ที่เชื่อมโยงเครือข่ายเส้นทั้งทางบกและทางทะเลใน 65 ประเทศเข้าด้วยกัน
