‘สหรัฐ’ ขอ ‘พันธมิตร’ เลิกใช้อุปกรณ์ ‘หัวเว่ย’ ชี้เสี่ยงต่อความมั่นคง

เว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมาอ้างบทความของ “เดอะวอลสตรีทเจอร์นัล” ระบุว่า สหรัฐอเมริกากำลังดำเนินการร้องขอให้ชาติพันธมิตรในประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐอเมริกาตั้งอยู่ไม่ใช้อุปกรณ์ของ ‘หัวเว่ย’ บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีสื่อสารของจีน เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านความมั่นคง

รายงานระบุว่ากองทัพสหรัฐใช้เครือข่ายที่มีความปลอดภัยสำหรับการสื่อสารในประเด็นอ่อนไหว แต่ก็ยังมีความกังวลว่าการสื่อสารที่ยังคงใช้ผ่านโครงข่ายสื่อสารเพื่อการพานิชย์ในประเทศอย่างเยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐได้เข้าประชุมกับตัวแทนรัฐบาลและผู้บริหารบริษัทสื่อสารในประเทศต่างๆเพื่อเรียกร้องให้เว้นจากการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในเครือข่ายของรัฐ

โดยเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐระบุว่าอุปกรณ์ของหัวเว่ยเพิ่มความเสี่ยงต่อการต้องเผชิญกับการโจมตีไซเบอร์และอาจทำให้จีนสามารถจารกรรมข้อมูลสื่อสาร หรือตัดการติดต่อสื่อสารใ ในยุคที่ทุกอย่างเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยี 5จี ในปัจจุบัน

ด้านหัวเว่ย ระบุกับซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนระบุว่า อุปกรณ์ของหัวเว่ยได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าใน 170 ประเทศและอีก 46 จาก 50 บริษัทด้านการสื่อสารที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยหัวเว่ย ระบุด้วยว่า รู้สึกแปลกใจกับพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐในบทความดังกล่าว และว่า หากพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐเกินเลยไปจากอำนาจ การกระทำดังกล่าวก็ไม่ควรสนับสนุน โดยหัวเว่ย เชื่อว่าคู่ค้าและลูกค้าจะเลือกอย่างถูกต้องบนพื้นฐานของการตันสินและประสบการณ์ของตนเองในการทำงานกับหัวเว่ย

Advertisement

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ด้านข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเตือนก่อนหน้านี้เกี่ยวกับความปลอดภัยของอุปกรณ์จากจีน โดยก่อนหน้านี้รวมไปถึงบริษัทแซดทีอี ของจีนด้วย นอกจากนี้ในประเทศพันธมิตรอย่างออสเตรเลียก็ ขัดขวางไม่ให้หัวเว่ยเข้าพัฒนาระบบโครงข่าย 5 จี ในประเทศด้วย

ขณะที่รายงานดังกล่าวมีขึ้นในช่วงเวลาที่สถานการณ์ความสัมพันธ์จีนและสหรัฐมีความตึงเครียดมากขึ้นผลจากสงครามการค้าที่ทั้งสองประเทศต่างตั้งกำแพงภาษีในระดับสูงระหว่างกัน

 

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image