สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมว่า รายงานการคาดการณ์เศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิกของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ)คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจีนและญี่ปุ่นจะเติบโตลดลงในช่วง 2 ปีข้างหน้า แต่การเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียในภาครวมจะยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากการเติบโตของความต้องการการบริโภคภายในประเทศที่เพิ่มขึ้นสวนทางกับการค้าโลกที่อ่อนแอลง ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ ราคาโภคภัณฑ์ที่ลดลง และอัตราการว่างงานน้อยส่งผลให้เศรษฐกิจในเอเชียขยายตัว ไอเอ็มเอฟยังคงเรียกร้องให้ผู้นำประเทศต่างๆ เดินหน้าปฎิรูปประเทศต่อไปด้วยการเพิ่มการผลิตและสร้างช่องว่างในการบริหารจัดการงบประมาณควบคูุ่กับการกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ เพราะยังคงมีปัจจัยท้าทายภายนอกมากมายที่ต้องเผชิญ ตั้งแต่เศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้วที่อ่อนแอ ปริมาณการค้าโลกที่ลดลง และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในตลาดการเงินโลก
ไอเอ็มเอฟคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจเอเชียจะเติบโต 5.3% ในปีนี้และปีหน้า ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 5.4% ขณะที่เศรษฐกิจจีนจะเติบโตที่ 6.5% ในปีนี้ และ 6.2% ในปีหน้า ซึ่งลดจาก 6.9% ในปีก่อน โดยผู้นำจีนกำลังพยายามเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการเติบโตจากการพึ่งพาการลงทุนภาครัฐและการส่งออกไปสู่การเพิ่มปริมาณการบริโภคภายในประเทศ ขณะที่เศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ยังคงเติบโตช้าโดยภาคการส่งออกจะยิ่งถูกซ้ำเติมจากการที่เงินเยนแข็งค่าสูงสุดในรอบ 18 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเศรษฐกิจญี่ปุ่นในปีนี้จะโต 0.5% ขณะที่ปีหน้าโต 0.1%