กรมการกงสุลเปิดตัว ‘อี-วีซ่า’ ปีหน้าเริ่มใช้ที่จีน ตั้งเป้า 3 ปียื่นขอได้ทั่วโลก

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายชัยสิริ อนะมาน ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายธานี ทองภักดี รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศร่วมเป็นสักขีพยานงานเปิดตัวและลงนามความร่วมมือโครงการ “ระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์” หรีออี-วีซ่าระยะแรกของประเทศไทย ระหว่างนายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล และนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทยโดยผู้ยื่นขอรับการตรวจลงตราสามารถยื่นคำขอผ่านระบบออนไลน์ ที่ www.thaievisa.go.th

นายชาตรีกล่าวว่า กรมการกงสุลได้พัฒนาระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ระยะแรกขึ้นเพื่อให้การตรวจลงตราสามารถตอบสนองต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว โดยได้มีการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองให้มากขึ้น โดยจะนำไปใช้ที่ประเทศจีนเป็นแห่งแรก เริ่มจากกรุงปักกิ่งในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 ต่อด้วยสถานกงสุลใหญ่ของไทยแห่งต่างๆ ในจีน ในวันที่ 1 มีนาคม 2562 หลังจากนั้นในวันที่ 1 เมษายน 2562 จะนำไปใช้งานที่ประเทศอังกฤษ และฝรั่งเศส แล้วจึงขยายการใช้งานไปยังประเทศอื่นๆ ที่มีความพร้อมตามลำดับ พร้อมตั้งเป้าหมายเปิดให้บริการทุกประเทศที่มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยภายใน 3 ปี

“ในเดือนมกราคมจะมีการเดินทางไปประชาสัมพันธ์กลุ่มเป้าหมาย ประกอบด้วยหน่วยราชการและประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง ในงานจะมีการทดลองใช้จริงระบบดังกล่าวเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานชาวจีนด้วย ขณะเดียวกันแม้จะมีการเริ่มใช้ระบบอี-วีซ่าแล้ว ผู้ที่ต้องการยื่นขอวีซ่าไทยก็ยังสามารถยื่นขอวีซ่าตามระบบเดิมได้ควบคู่กัน” นายชาตรีกล่าว และว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง พ.ร.บ.คนเข้าเมือง เพื่อให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเพื่อรองรับระบบอี-วีซ่าด้วย

นายชาตรีกล่าวว่า การขอรับการตรวจลงตราในระบบนี้จะครอบคลุมการตรวจลงตราทุกประเภท ระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลรูปถ่าย และเอกสารประกอบของผู้ร้อง ให้ครบถ้วน เป็นไปตามระเบียบ และสอดคล้องกับมาตรฐานสากลที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ไอเคโอ) กำหนด ซึ่งไม่เพียงแต่จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ยื่นคำร้อง แต่ยังช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบเอกสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยจะนำระบบชีวมาตร (biometric) มาใช้ในการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลและนำเทคโนโลยี Robotic Process Automation มาใช้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ร้อง

Advertisement

อธิบดีกรมการกงสุลกล่าวว่า ในส่วนของการชำระค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราออนไลน์ (อี-เพย์เมนต์) ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของระบบอี-วีซ่า กรมการกงสุลได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยเปิดให้บริการชำระค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา โดยนำเอาเทคโนโลยีการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของธนาคาร และระบบเข้ารหัส มาใช้กับระบบการตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าจะสามารถชำระค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ในระยะแรกอี-วีซ่าจะต้องติดสติ๊กเกอร์เช่นเดิม แต่ในระยะต่อไปอาจจะมีการยกเลิกการใช้วีซ่าสติ๊กเกอร์และไม่จำเป็นต้องติดแผ่นปะลงในหนังสือเดินทางอีกต่อไป

ด้านนายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า บริการไทย อี-วีซ่าเป็นบริการระดับสากลที่อยู่บนระบบที่มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับโลก ธนาคารกสิกรไทยได้เข้ามาสนับสนุนด้านระบบการชำระค่าธรรมเนียมอิเล็กทรอนิกส์ของบริการนี้ ทำให้สามารถรองรับการธุรกรรมข้ามประเทศได้กว่า 126 สกุลเงินทั่วโลก ผ่านหลายช่องทางทั้งบัตรเครดิต คิวอาร์โค้ด และอินเตอร์เน็ตแบงกิ้ง ในส่วนของคิวอาร์โค้ดจะเริ่มที่ประเทศจีน ซึ่งรองรับการใช้งานผ่านทั้งวีแชตเพย์ อาลีเพย์ และไชน่ายูเนียนเพย์

นายปรีดีกล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลระบบให้มีความเสถียรและปลอดภัยสูงสุด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ขอวีซ่าและส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย นอกจากนี้ ธนาคารยังจะร่วมสนับสนุนและพัฒนาโครงการนำเทคโนโลยี Robotic Process Automation มาใช้ตรวจสอบข้อมูลของผู้ขอวีซ่าของกรมการกงสุลในอนาคตด้วย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image