สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า นายอาเหม็ด อูซุมกู องค์กรห้ามอาวุธเคมีออกมาเตือนว่ามีสัญญาณที่น่าวิตกยิ่งว่า กองกำลังรัฐอิสลาม (ไอเอส) อาจผลิตอาวุธเคมีได้เองและอาจนำมาใช้ในการก่อเหตุโจมตีในประเทศอิรักและซีเรียที่กลุ่มไอเอสเคลื่อนไหวยึดครองดินแดนส่วนหนึ่งอยู่แล้วก็เป็นได้ โดยทีมงานสืบสวนขององค์กรห้ามอาวุธเคมีได้พบหลักฐานการใช้ซัลเฟอร์มัสตาร์ดในการโจมตีใน 2 ประเทศนี้ อย่างไรก็ดี นายอูซุมกูไม่ได้ระบุชัดว่ามีการใช้อาวุธเคมีดังกล่าวในเหตุโจมตีใดบ้าง แต่สำนักข่าวซานารายงานอ้างว่า เมื่อเดือนก่อนกลุ่มไอเอสได้ใช้ก๊าซร้ายแรงโจมตีกำลังทหารซีเรียที่ฐานทัพอากาศของรัฐบาลในเมืองดีร์เอซซอร์ ขณะที่เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา มีการโจมตีด้วยก๊าซถล่มเมืองทาซา ทางตอนใต้ของเมืองเคอร์คุก ในประเทศอิรัก ซึ่งเชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มไอเอส ส่งผลให้มีเด็กเสียชีวิต 3 คน และมีได้รับบาดเจ็บอีกราว 1,500 คน ซึ่งผู้บาดเจ็บมีอาการตั้งแต่มีแผลไหม้ตามผิวหนัง ผื่นแดงและระบบทางเดินหายใจมีปัญหา
ก่อนหน้านี้ นายจอห์น เบรนแนน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลาง (ซีไอเอ) ของสหรัฐ เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ซีบีเอสนิวส์ว่า นักรบไอเอสมีศักยภาพในการผลิตก๊าซคลอรีนและมัสตาร์ด แต่สามารถผลิตได้ในจำนวนยังไม่มากนัก
