ท่ามกลางการประกาศใช้มาตรการแข็งกร้าวและการทำสงครามการค้ากับประเทศต่างๆ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ล่าสุดปรากฏว่าตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กลับพุ่งสูงสุดในรอบ 10 ปี เนื่องจากคนอเมริกันหันไปซื้อสินค้านำเข้ามากขึ้นเมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า
ข้อเท็จจริงดังกล่าวสวนทางกับคำกล่าวอ้างของทรัมป์ที่มักจะโทษว่าสหรัฐขาดดุลการค้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากถูกประเทศคู่ค้าอื่นเอารัดเอาเปรียบ ทั้งยังเป็นสาเหตุให้อัตราการว่างงานในสหรัฐพุ่งสูงขึ้น แต่ตัวเลขการขาดดุลการค้าดังกล่าวชี้ให้เห็นว่ามาตรการแข็งกร้าวทางการค้าที่ทรัมป์นำมาใช้ ก็ยังไม่อาจทำให้ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐดีขึ้น
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขการขาดดุลการค้าของสหรัฐว่า เพิ่มสูงขึ้น 1.7 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 55.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากปริมาณการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก
แม้แต่การขาดดุลการค้ากับจีนก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยเพิ่มขึ้นถึง 2 เปอร์เซ็นต์ มาอยู่ที่ 38 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าการนำเข้าสินค้าหลักอย่างถั่วเหลืองจะปรับลดลงก็ตาม แต่ตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขที่ปรับผลกระทบจากปัจจัยฤดูกาลแล้ว เพราะหากไม่คำนึงถึงการปรับผลกระทบจากฤดูกาล ตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐกับจีนจะสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 43.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
