| ที่มา | น.ส.พ.มติชน รายวัน |
|---|---|
| ผู้เขียน | มนต์ทิพย์ ธานะสุข |
| เผยแพร่ |
ความแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศโลกนับวันทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ บทจะแล้งก็แล้งหนัก บทฝนจะตกหนัก ก็เทกระหน่ำลงมาชนิดไม่ลืมหูลืมตา สร้างความเสียหายหนักกันไป
ธรรมชาติก็คือธรรมชาติ ไม่ว่ามนุษย์หน้าไหนก็ไม่สามารถควบคุมให้อยู่ใต้อาณัติได้ แต่หากมีอะไรที่เราจะสามารถช่วยกันแก้ไขหรือป้องกันภัยท้าทายใดๆ ที่จะมีต่อมนุษยชาติบนโลกใบนี้ได้ เราก็ควรจะต้องร่วมใจกันลงมือทำเพื่อโลกที่ดีขึ้น
ทว่าจากผลการศึกษาของแอสเซ็ต โอนเนอร์ ดิสโคลสเชอร์ โพรเจ็กต์ (เอโอดีพี) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ที่มีวัตถุประสงค์ในการทำงานคือมุ่งปรับปรุงการจัดการปัญหาความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งศึกษาการลงทุนของผู้ลงทุนรายใหญ่ระดับโลกในภาคธุรกิจต่างๆ ที่มีผลเกี่ยวเนื่องกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ พบว่า เกือบครึ่งหนึ่งของผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สุด 500 อันดับโลก ไม่ได้ช่วยทำอะไรเลยในการจัดการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก
รายงานของเอโอดีพีพบว่า มีไม่ถึง 1 ใน 5 ของผู้ลงทุนรายใหญ่ดังกล่าว หรือคิดเป็นเพียง 97 ราย ที่มีสินทรัพย์อยู่ในมือรวมกันคิดเป็นมูลค่า 9.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ กำลังดำเนินมาตรการที่ชัดเจนมากขึ้นในการช่วยบรรเทาปัญหาภาวะโลกร้อน หนึ่งในมาตรการต่อสู้ดังกล่าวรวมถึงการใช้สินทรัพย์ที่มีอยู่ ไปลงทุนในสินทรัพย์ที่จะก่อมลพิษน้อยที่สุด หรือการสนับสนุนบริษัทในเครือของตนเองลงทุนในสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เอโอดีพียังศึกษาพบว่า มีผู้ลงทุนรายใหญ่ 157 ราย ที่มีสินทรัพย์ในมือรวมกันมีมูลค่า 14.2 ล้านล้านดอลลาร์ กำลังดำเนินการในย่างก้าวแรกที่จะร่วมรับมือสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก ขณะที่มี 246 รายที่มีสินทรัพย์รวมกันมูลค่า 14 ล้านล้านดอลลาร์ ที่ไม่ได้ทำอะไรเลยในการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
จูเลียน พูลเทอร์ หัวหน้าผู้บริหารของเอโอดีพี บอกว่า ความท้าทายเสี่ยงภัยจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกกำลังเป็นประเด็นในกระแสโลกสำหรับผู้ลงทุนสถาบันที่หันมาให้ความสำคัญ ในปีที่ผ่านมาก็ได้เห็นการดำเนินการในหลายๆ ด้านเพิ่มมากขึ้นในการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ อย่างไรก็ดี ยังเป็นที่น่าตกใจที่พบว่าเกือบครึ่งหนึ่งของผู้ลงทุนรายใหญ่ของโลกกลับยังไม่ได้ทำอะไรเลยในการบรรเทาความเสี่ยงอันตรายจากภัยคุกคามดังกล่าว พูลเทอร์กล่าวเตือนด้วยว่า กองทุนเบี้ยบำนาญและกองทุนผู้รับประกันภัยที่เพิกเฉยต่อปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก กำลังอยู่บนเส้นทางที่เดิมพันด้วยเงินออมของตนเองและความมั่นคงทางการเงินของคนนับหลายร้อยล้านคน
แต่จริงๆ แล้วเดิมพันไม่ได้มีอยู่แค่นั้น หากมีความมั่นคงในชีวิตของมวลมนุษยชาติเป็นเดิมพันใหญ่ ที่หากว่าถ้าเราไม่ร่วมด้วยช่วยกันแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโลกเราจะเผชิญบทลงโทษจากธรรมชาติที่หนักหนาสาหัสกว่าที่เราได้พบเห็นกันมาอีกมากน้อยแค่ไหน…
