สื่อผู้ดีเผย ‘เทเรซา เมย์’ ส่อเลื่อนลงมติเบร็กซิท

REUTERS/Piroschka van de Wouw

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทม์ส ของอังกฤษ รายงานโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลภายใต้การนำของนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ รวมไปถึงคนใกล้ชิดผู้นำอังกฤษอีกหลายคนระบุว่า นายกรัฐมนตรีเมย์อาจประกาศให้เลื่อนการลงมติรับหรือไม่รับ ร่างความตกลงขั้นตอนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) หรือร่างเบร็กซิทที่รัฐบาลจัดทำขึ้นผ่านการเจรจาต่อรองกับตัวแทนของอียูมาเกือบ 2 ปี และผ่านความเห็นชอบของชาติสมาชิกอียูแล้ว ที่เดิมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือสภาสามัญกำหนดจะลงมติในวันที่ 11 ธันวาคมนี้ ตามคำขอของรัฐบาล ทั้งนี้ นางเมย์จะใช้เวลาในช่วงสัปดาห์หน้าเดินทางไปยังกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของเบลเยียมเพื่อเจรจาต่อรองให้ได้เงื่อนไขเบร็กซิทที่ดีขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากร่างข้อตกลงเดิมนั้นไม่มีทางผ่านความเห็นชอบของสภาแน่นอน และรัฐมนตรีหลายคนเชื่อว่ารัฐบาลจะแพ้มติอย่างหนักจนไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลาออกจากตำแหน่ง

รายงานข่าวดังกล่าวมีขึ้นทั้งๆ ที่โฆษกประจำตัวนายกรัฐมนตรียังคงยืนกรานเมื่อวันที่ 7 ธันวาคมว่า กำหนดการลงมติจะเป็นไปตามกำหนดเดิม แม้จะมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้เลื่อนออกไปก็ตาม ขณะที่นางเมย์เองก็ยังยืนยันว่าร่างเบร็กซิทของรัฐบาลนั้นดีที่สุดแล้ว ทางเลือกอื่นๆ นั้นจะยิ่งทำให้เกิดปัญหายุ่งยากและเจ็บปวด เพราะหากไม่รับร่างนี้ อังกฤษก็อาจต้องออกจากอียูโดยที่ไม่มีข้อตกลงใดๆ หรือไม่ก็ไม่ออกจากอียูเลย

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาร่างเบร็กซิทของรัฐบาลถูกคัดค้านทั้งจาก ส.ส.ฝ่ายค้านและ ส.ส.ในสังกัดพรรคอนุรักษนิยมของรัฐบาลเอง และยิ่งมีแนวโน้มถูกปฏิเสธในสภามากขึ้นไปอีกเมื่อคณะกรรมาธิการว่าด้วยการออกจากอียู ของสภาสามัญซึ่งเป็นกรรมาธิการร่วมของทุกพรรค เผยแพร่ผลการตรวจวิเคราะห์ร่างเบร็กซิทของรัฐบาลออกมาในวันเดียวกันนี้ โจมตีร่างฯอย่างรุนแรงนับสิบประเด็น รวมทั้งประเด็นว่าด้วยการทำความตกลงรับประกันการไม่ขีดเส้นพรมแดนบนเกาะไอร์แลนด์อย่างเป็นรูปธรรม ที่เรียกว่า แบ๊กสต๊อป โดยอังกฤษจะยินยอมอยู่ใต้ความตกลงทางศุลกากรกับอียูต่อไปจนกว่าจะหาทางออกในเรื่องนี้ได้ ซึ่งถูกคัดค้านอย่างรุนแรง รายงานผลการตรวจวิเคราะห์ดังกล่าวระบุว่า ร่างความตกลงของรัฐบาลไม่ทำให้ประชาชนและภาคธุรกิจของประเทศมองเห็นและวาดภาพความสัมพันธ์กับอียูในอนาคตได้อย่างชัดเจนต่อไปอีก 10-20 ปี และแบ๊กสต๊อป จะกลายเป็นอุปสรรคในการเจรจาการค้ากับอียูในทันที รวมทั้งทำให้จุดยืนในการเจรจาต่อรองของอังกฤษอ่อนด้อยลงด้วย

ทันข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่

Advertisement

เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image