รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสออกมาเตือนว่า การประท้วงอย่างต่อเนื่องทุกวันเสาร์ของกลุ่มผู้ใส่เสื้อกั๊กเหลืองที่แสดงความไม่พอใจต่อการประกาศขึ้นราคาน้ำมันดีเซลของรัฐบาล และค่าครองชีพสูง ต่อเนื่องกันมาถึง 4 สัปดาห์ ได้กลายเป็นหายนะทางเศรษฐกิจของฝรั่งเศสแล้ว
ในการประท้วงเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ประท้วงราว 125,000 คน ที่ออกมาประท้วงทั่วประเทศ โดยทางการได้จับกุมและดำเนินคดีกับผู้ประท้วง 1,200 คน หลังจากกลุ่มผู้ประท้วงได้ขว้างปาหิน จุดไฟเผารถ และปล้นสะดมร้านค้ารวมถึงร้านอาหาร
ต่อมาวันที่ 9 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ของรัฐในกรุงปารีสและทั่วประเทศได้ออกมาเก็บกวาดทำความสะอาดเมืองที่เต็มไปด้วยเศษกระจกและรถยนต์ที่ถูกเผา ขณะที่เจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมยืนยันว่าจะจัดการกับผู้ที่ออกมาปล้นข้าวของและทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างหนัก
ด้านทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศสระบุว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง จะออกมาแถลงท่าทีในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 02.00 น. วันที่ 11 ธันวาคม ตามเวลาในไทย โดยผู้นำฝรั่งเศสมีกำหนดจะพบกับสหภาพการค้า องค์กรลูกจ้าง และเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่อพยายามที่จะคิดหามาตรการจัดการกับการออกมาประท้วงอย่างต่อเนื่องของประชาชน
ขณะที่รัฐมนตรีแรงงานฝรั่งเศสกล่าวว่า ประธานาธิบดีมาครงจะประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรมและสามารถทำได้ทันที แต่มาตรการดังกล่าวไม่ได้รวมถึงการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ซึ่งจะเป็นการทำลายการจ้างงาน ทั้งยังทำให้ธุรกิจขนาดเล็กไม่อาจรับมือได้และเสี่ยงที่จะล้มละลายตามมา
ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่
