เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม นายพิชยพันธุ์ ชาญภูมิดล อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก กระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะ จะเดินทางไปร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมอย่างไม่เป็นทางการไทย – ลาว (เจซีอาร์) ครั้งที่ 3 ที่นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ระหว่างวันที่ 13 – 14 ธ.ค. 2561 ประเด็นหารือครอบคลุมการเมือง สังคม และเศรษฐกิจ โดยมุ่งยกระดับความเป็นหุ้นส่วนที่ใกล้ชิด และการพัฒนาสองประเทศอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ พลเอกประยุทธ์มีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะนายบุนยัง วอละจิด ประธานประเทศลาว ที่ทำเนียบประธานประเทศด้วย
นายพิชยพันธุ์กล่าวว่า การประชุมจะหารือเพื่อติดตาม และเสริมสร้างความร่วมมือใหม่ๆ โดยเฉพาะการพิจารณาถึงการก่อสร้างสะพานรถไฟมิตรภาพ ไทย-ลาว เพื่อแยกเส้นทางรถไฟออกมาจากสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 1 โดยจะนำไปรวมกับโครงการรถไฟไทย-จีน เพื่อก่อสร้างจากแม่น้ำโขงมายังหนองคาย รวมระยะทาง 5 กม. โดยได้จัดตั้งคณะทำงานสำรวจเส้นทางและความเป็นไปได้การดำเนินการ และศึกษาเพิ่มเติมการเปิดเส้นทางเดินรถไทย-ลาว-จีน จากเดิมคุนหมิง-กรุงเทพ เพื่อการขนส่งสินค้า เป็นคุนหมิง-กรุงเทพ-แหลมฉบัง ที่จีนและลาวเสนอเพื่อให้เชื่อมโยงการขนส่งสินค้าได้มากขึ้น
อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกกล่าวอีกว่า ที่ประชุมยังจะหารือถึงการเชื่อมโยงการค้าและการขนส่งระหว่างประเทศแบบไร้รอยต่อ โดยให้มีการผลักดันให้เกิดจุดตรวจร่วมสินค้า จ.มุกดาหาร กับแขวงสะหวันนะเขต เพื่อลดระยะเวลาและอำนวยความสะดวกสินค้าข้ามแดน รวมทั้งเจรจากับ ลาวให้ยอมรับแนวปฏิบัติถนนหมายเลข 12 ให้เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศข้ามสะพานมิตรภาพไทย – ลาว แห่งที่ 3 เชื่อม จ.นครพนม – แขวงคำม่วน ลาว – เมืองฮาติงห์ เวียดนาม – จีน อีกทั้งจะจัดตั้งจุดผ่านแดนถาวร ที่บ้านฮวก อ.ภูซาง จ.พะเยา เชื่อมบ้านปางหม่อน เมืองคอบ แขวงไชยะบุรี หวังเป็นอีกหนึ่งเส้นทางเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ตามนโยบาย 2 ประเทศ 1 จุดหมายปลายทาง นอกจากนี้ ฝ่ายไทยต้องการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาค โดยเตรียมผลักดันให้ลาว เป็นศูนย์กลางแหล่งพลังงานไฟฟ้าของอาเซียนด้วย
