สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้ชุมนุมประท้วงที่เรียกตัวเองว่าขบวนการเสื้อกั๊กเหลือง ยังคงออกมาชุมนุมประท้วงตามท้องถนนและปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งในหลายเมืองทั่วประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ทุกวันสุดสัปดาห์เป็นสัปดาห์ที่ 5 ต่อเนื่องกัน แต่จำนวนผู้เข้าร่วมลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากประธานาธิบดี เอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศสแถลงถึงชุดมาตรการให้ความช่วยเหลือและตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ประท้วงไปเมื่อวันที่ 10 ธันวาคมที่ผ่านมา
นายคริสตอฟ กาสตาเนอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยของฝรั่งเศสระบุว่า ตามตัวเลขของทางกระทรวงเมื่อบ่ายวันเดียวกัน จำนวนผู้ประท้วงทั่วประเทศอยู่ที่ราว 66,000 คนในหลายเมืองใหญ่ ซึ่งลดลงจากตัวเลขของผู้ชุมนุมเมื่อสัปดาห์ก่อนราวครึ่งหนึ่ง ในขณะที่เฉพาะในกรุงปารีสที่เป็นเมืองหลวงนั้น จำนวนผู้ประท้วงหลงเหลือเพียง 2,200 คน ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจระดมกำลังกันออกมาประจำการตามจุดต่างๆ มากกว่า 8,000 คน แต่ยังคงเกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ซึ่งถูกผู้ประท้วงขว้างปาด้วยก้อนหินและสิ่งของต่างๆ จนต้องตอบโต้ด้วยแก๊สน้ำตา มีผู้ประท้วงถูกจับกุมอีก 168 คน ลดลงจากจำนวนกว่า 1,000 คนเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้วมาก
การปะทะกับเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในหัวเมือง อาทิ ที่บอร์โดซ์ เมืองทางตะวันตกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับที่ ตูลูส, นองต์, เบซานก็อง, แซงต์เอเตียง, น็องซี และ ลียง เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการปิดถนนหลายสายในหลายเมืองทางใต้ รวมทั้งการปิดทางหลวงหมายเลข เอ16 ใกล้กับเมืองท่า กาเลส์ ทางตอนเหนือของประเทศ
นายกาสตาเนอร์ เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เกี่ยวข้องกับการประท้วงแล้ว 8 ราย พร้อมกันนั้นก็เรียกร้องให้กลุ่มผู้ประท้วงยุติการปิดกั้นถนน ยึดวงเวียนจราจร ในทุกๆ เมืองทั่วประเทศ เพื่อให้การเดินทางของประชาชนทั่วไปสะดวกและปลอดภัย ซึ่งต้องถือเป็นเรื่องสำคัญในเวลานี้ นอกเหนือจากการเรียกร้องให้มีการเจรจาเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถร่วมมือกันเพื่อเปลี่ยนแปลงฝรั่งเศสไปในทิศทางที่ต้องการ