สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ทางการแคนาดาเปิดเผยว่า ไฟป่าในรัฐแอลเบอร์ตาเริ่มลุกลามช้าลงจากปัจจัยของการเปลี่ยนสภาพอากาศ ขณะที่โรงงานผลิตน้ำมันในพื้นที่ไม่ประสบเหตุร้ายแรงแต่อย่างใด
นางราเชล นอตลีย์ มุขมนตรีรัฐแอลเบอร์ตา และเจ้าหน้าที่รายอื่น ๆ กล่าวว่า ไฟป่าที่ลุกลามรอบ ๆ เมืองฟอร์ต แมคเมอร์เรย์นานหลายวันนี้ เริ่มลุกลามช้าลงกว่าเดิม อันเนื่องมาจากฝนที่ตกเล็กน้อย กอปรกับอุณหภูมิที่เย็นขึ้น
ไฟป่าครั้งนี้เผาผลาญพื้นที่ไป 1,600 ตารางกิโลเมตร ขณะที่ทางการแสดงความกังวลว่า ไฟป่าอาจลุกลามกระจายไปทางตะวันออกเข้าสู่รัฐซัสแคตเชวัน แต่เหตุการณ์ที่คาดไว้ยังไม่เกิดขึ้น โดยพื้นที่ที่ไฟไหม้ยังคงอยู่ห่างจากซัสแคตเชวัน ประมาณ 40 กิโลเมตร
ไฟป่าใกล้ฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ ทำให้ประชากรทั้งหมดในเมือง 88,000 คน ต้องอพยพเอาชีวิตรอด ท่ามกลางความสูญเสียบ้านเรือนที่ถูกไฟเปลี่ยนให้เป็นเพียงเถ้าถ่าน
นายชาด มอร์ริสัน ผู้จัดการไฟป่าอาวุโสประจำรัฐแอลเบอร์ตากล่าวว่า “ด้วยความช่วยเหลือจากธรรมชาติ และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ” ประกอบกับการอุทิศตนทำงานหนักของนักดับเพลิงร่วม 500 ชีวิต ทำให้สามารถควบคุมแนวไฟหลายแห่งในฟอร์ต แมคเมอร์เรย์ได้แล้ว
ผู้จัดการไฟป่ารายนี้เผยอีกว่า ภัยคุกคามไฟป่าที่อาจลามไปถึงแหล่งทรายน้ำมันทางตอนเหนือของฟอร์ต แมคเมอร์เรย์บรรเทาลงไปแล้วในขณะนี้
รัฐแอลเบอร์ตามีแหล่งทรายน้ำมันหลายแห่ง ถือเป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของแคนาดา โดยสามารถขุดเจาะน้ำมันได้ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม ด้วยภัยคุกคามที่คงอยู่ ทำให้แท่นขุดเจาะต้องระงับการผลิตน้ำมัน
