“กั๊กเหลือง” ฝรั่งเศสออกมาชุมนุมอีกทั่วประเทศ

(Photo by Sameer Al-Doumy / AFP)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วง “เสื้อกั๊กเหลือง” ของฝรั่งเศส กลับมาชุมนุมประท้วงกันอีกครั้ง เมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ขณะที่โฆษกของรัฐบาลฝรั่งเศส ประณามผู้ประท้วงกลุ่มนี้ว่าเป็นพวกหัวรุนแรงที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาล

ข่าวระบุว่า มีผู้ประท้วงเสื้อกั๊กเหลืองราว 1,000 คน อยู่บริเวณถนนฌ็องเซลิเซ่ ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ขณะที่มีรถตำรวจราว 15 คัน จอดอยู่บริเวณดังกล่าว ในขณะที่ผู้ประท้วงพากันจุดไฟเผากองขยะและข้าวของต่างๆจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งเผารถจักรยานยนต์ตามข้างถนน โดยการชุมนุมเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น เมื่อกลุ่มผู้ประท้วงขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฉีดแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วง ซึ่งผู้สื่อข่าวเอเอฟพีเห็นความชุลมุนวุ่นวายเกิดขึ้นใกล้กับแม่น้ำแซน ในกรุงปารีส ขณะที่ตำรวจแจ้งว่า ในช่วงบ่ายก็มีรายงานผู้ประท้วงมาเพิ่มอีก รวมทั้งสิ้นราว 4,000 คน

หนึ่งในผู้ประท้วงวัย 58 ปี บอกว่า เหตุผลที่มรร่วมประท้วงเพื่อปกป้องสิทธิของลูกๆในการทำงานให้ได้มีกินกัน โดยลูกสาวได้เงินเดือนๆละ 800 ยูโร หรือราว 30,000 บาท ต้องทำงานเป็นคนทำขนมปังสัปดาห์ละ 25 ชั่วโมง

นอกจากที่กรุงปารีสแล้ว ยังมีการชุมนุมย่อยๆขึ้นในอีกหลายเมืองของฝรั่งเศส รวมทั้งที่เมืองรูอ็อง ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงปารีส ที่มีชุมนุมราว 2,000 คน และมีการจับกุมตัวผู้ประท้วง 2 ราย โดยมีผู้ประท้วงได้รับบาดเจ็บ 1 ราย หลังถูกสิ่งของขว้างใส่ และกลุ่มผู้ประท้วงได้จุดไฟเผาสิ่งกีดขวาง

Advertisement

ทั้งนี้ การชุมนุมของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองในฝรั่งเศสเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา ตั้งแต่เริ่มมีการประกาศจะขึ้นภาษีน้ำมัน จนทำให้ประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครง ของฝรั่งเศสต้องล้มเลิกแผนดังกล่าว ก่อนที่ผู้ชุมนุมจะหันมาเบี่ยงเบนการชุมนุมเป็นการขับไล่รัฐบาลของนายครงแทน โดยจำนวนผู้ชุมนุมจะลดลงเรื่อยๆในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจเปิดเผยว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 5 มกราคม มีผู้ชุมนุมทั่วประเทศทั้งสิ้นราว 12,000 คน เปรียบเทียบกับเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายนที่มีอยู่ถึง 282,000 คน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image