สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุสาวชาวซาอุดีอาระเบีย ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองของไทยควบคุมตัวไว้ขณะเดินทางถึงประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 มกราคม และปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศ
โดยหญิงสาวชาวซาอุฯที่ถูกควบคุมตัว ชื่อน.ส.ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด เอ็ม อัลคูนัน วัยเพียง 18 ปี เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า เธอถูกเจ้าหน้าที่ซาอุฯและคูเวต สกัดกั้นเอาไว้ขณะเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และเอกสารการเดินทางถูกยึดไปทั้งหมด รวมทั้งหนังสือเดินทาง
ราฮาฟกล่าวว่า เธอพยายามที่จะหลบหนีจากครอบครัวของเธอ ที่ทำร้ายเธอทั้งทางร่างกายและจิตใจ
“ครอบครัวของฉันเข้มงวดมาก และขังฉันไว้ในห้องนานถึง 6 เดือน และยังตัดผมของฉัน” ราฮาฟกล่าว และว่า หากเธอถูกส่งตัวกลับจะต้องถูกขังอย่างแน่นอน และมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าพวกเขาจะต้องฆ่าเธอทันทีที่ถูกปล่อยออกจากเรือนจำซาอุฯ ซึ่งเธอรู้สึกหวาดกลัวและไร้ซึ่งความหวังใดๆ
ด้านพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เปิดเผยกับเอเอฟพีว่า ราฮาฟถูกปฏิเสธการเข้าประเทศไทย หลังจากเดินทางจากประเทศคูเวตเมื่อวันที่ 6 มกราคม เนื่องจากไม่มีเอกสารอื่นๆ เช่นตั๋วเดินทางกลับหรือแม้แต่เงิน พร้อมระบุว่า ตอนนี้ราฮาฟพักอยู่ที่โรงแรมของสนามบินแห่งหนึ่ง
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่า ราฮาฟหนีจากครอบครัวมาเนื่องจากไม่ต้องการจะแต่งงาน และเป็นห่วงว่าอาจจะมีปัญหาหากถูกส่งตัวกลับไปซาอุฯ จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปดูแลในตอนนี้ และทางการไทยได้ติดต่อสถานทูตซาอุฯเพื่อประสานงานแล้ว พร้อมกับกล่าวว่า ราฮาฟจะถูกส่งตัวกลับซาอุฯในช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคม และว่า “มันเป็นปัญหาในครอบครัว”
อย่างไรก็ตาม ราฮาฟ กล่าวว่า เธออยู่ระหว่างการแวะเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางไปขอลี้ภัยที่ประเทศออสเตรเลียและยืนยันว่ามีวีซ่า และยังเปิดเผยด้วยว่า เธอเผชิญหน้ากับตัวแทนของสถานทูตซาอุฯและคูเวต ขณะเดินออกจากเครื่องบินที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ด้านนายฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอทช์ ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของทางการไทยว่า เหตุใดจึงปล่อยให้เจ้าหน้าที่ทูตเข้าไปในเขตพื้นที่ปิดของสนามบินและยังยึดหนังสือเดินทางของผู้โดยสาร
ขณะที่เว็บไซต์ www.abc.net.au ได้รายงานว่า ราฮาฟ ได้ทวีตข้อความพร้อมกับภาพของตัวเอง โดยระบุว่า “ฉันชื่อ ราฮาฟ โมฮัมเหม็ด มุตลัค อัลคูนัน และนี่คือรูปของฉัน ฉันกลัว ครอบครัวจะฆ่าฉัน”
ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่
