สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เกิดเหตุวางระเบิดโดยใช้รถยนต์หรือคาร์บอมบ์ 3 ครั้งในกรุงแบกแดด เมืองหลวงของอิรัก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 94 ราย หนึ่งในนั้นเกิดขึ้นที่ตลาดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นับเป็นเหตุนองเลือดครั้งรุนแรงที่สุดในกรุงแบกแดดในปีนี้
กลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) อ้างว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุโจมตีทั้งหมด ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลเผชิญทางตันจากวิกฤตทางการเมืองที่หลายฝ่ายเตือนว่า อาจเป็นอุปสรรคบ่อนทำลายการต่อสู้กับกลุ่มหัวรุนแรง
เจ้าหน้าที่ทางการเปิดเผยว่า เหตุระเบิดครั้งรุนแรงที่สุดเกิดขึ้นที่เมืองซาดร์ซิตี ที่มักตกเป็นเป้าโจมตีทางตอนเหนือของกรุงแบกแดด เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 64 ราย แรงระเบิดทำให้ร้านค้าหลายแห่งบริเวณใกล้เคียงเกิดไฟลุกขึ้นจนเหลือแต่ซากที่ไหม้เกรียม และมีชิ้นส่วนของยานพาหนะที่ถูกระเบิดจนพังยับอยู่ตามท้องถนนบริเวณดังกล่าว
เหตุระเบิดอีกจุดคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 17 รายที่ประตูทางเข้าศาสนสถานสำคัญของชาวมุสลิมชีอะห์ในย่านคาดิมิยาทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงแบกแดด และอีกแห่งหนึ่งที่เกิดระเบิดขึ้นในช่วงบ่ายวันเดียวกันอยู่บริเวณย่านจาเมียทางตะวันตกของกรุงแบกแดด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 13 ราย
