คอลัมน์ไฮไลต์โลก: ร้านขายยาแผนโบราณไต้หวันดิ้นต่อชีวิต

เอเอฟพี

ยาแผนโบราณ หรือยาสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นตำรับไทย ตำรับจีน ที่มีการสืบทอดองค์ความรู้กันมายาวนาน ยังคงเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจนถึงปัจจุบัน ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิผล หากใช้ให้ถูกโรค ถูกอาการ

แต่ตอนนี้ผู้ประกอบการร้านขายจีนแผนโบราณในไต้หวัน กำลังเดือดร้อนหนัก ที่อาจจะทำให้พวกเขาต้องปิดกิจการลงไปได้ ไม่ใช่เพราะคนไม่นิยมพึ่งพายาจีนแผนโบราณหรือยาสมุนไพรในการรักษาโรค หรือไม่มีคนรุ่นลูกรุ่นหลานคอยสืบทอดกิจการร้านขายยาแผนโบราณ หากแต่เป็นฝ่ายผู้มีอำนาจบังคับใช้กฎหมายที่กำลังบีบคั้นให้ร้านขายยาเหล่านี้ในไต้หวันกำลังจะล้มหายตายจากไป เหตุเพราะทางการไม่ยอมออกใบอนุญาตใหม่ในการประกอบธุรกิจร้านขายยาแผนโบราณให้

เอเอฟพี

ดังเช่นกรณีของ กู่ เฉิง ฟู่ เจ้าของร้านขายยาจีนแผนโบราณในเขตนิวไทเป ที่บอกเล่าว่าร้านขายยาของเธอยังเปิดต่อไปได้ตราบเท่าทีพ่อสามียังมีชีวิตอยู่ เพราะเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบกิจการวิชาชีพนี้อยู่เพียงคนเดียว โดยร้านขายยาแผนโบราณอย่างร้านของเธอกำลังจะล้มหายไป ซึ่งที่ผ่านมาก็มีร้านขายยาแผนโบราณปิดตัวลงไปกันในแต่ละปีราวๆ 200 ร้านได้ จนในขณะนี้มีร้านขายยาแผนโบราณในไต้หวันเหลืออยู่ราว 7,900 ร้าน หรือครึ่งหนึ่งของเมื่อ 20 ปีก่อน ทั้งๆที่ยาแผนโบราณ ยาสมุนไพร ยังคงได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในไต้หวันอยู่

เอเอฟพี

ทั้งนี้ทางการไต้หวันไม่ได้ออกใบอนุญาตใหม่สำหรับการประกอบการธุรกิจร้านขายยาแผนโบราณมาตั้งแต่ปี 1998 เป็นต้นมา ซึ่งผู้ที่มีใบอนุญาตดังกล่าวอยู่ก็ยังไม่สามารถส่งต่อไปยังคนรุ่นหลังที่จะมาสืบทอดธุรกิจต่อได้

Advertisement

มีการชี้ถึงสาเหตุที่ทางการไต้หวันไม่ออกใบอนุญาตใหม่ให้ว่ามีต้นตอมาจากความพยายามของทางการไต้หวันที่ต้องการขันน็อตกฎระเบียบควบคุมอุตสาหกรรมภูมิปัญญาพื้นบ้านให้เข้มข้นขึ้นและให้วิธีการรักษาด้วยการแพทย์แผนโบราณอยู่ภายใต้ขอบเขตการแพทย์วิชาชีพ ซึ่งการปฏิเสธที่จะออกใบอนุญาตให้ใหม่มีขึ้นภายใต้ความมุ่งหวังว่าผู้ประกอบวิชาชีพแพทย์จริงๆ จะสามารถให้ทางเลือกในการรักษาด้วยยาแผนโบราณด้วยได้ ซึ่งพวกเขาเหล่านี้จะสามารถปฏิบัติภายใต้กฎระเบียบทางการแพทย์และสอดคล้องกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ได้มีประสิทธิภาพมากกว่า

เอเอฟพี

เฉิน ปิ่น ฉี หัวหน้าฝ่ายการแพทย์แผนจีน ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขไต้หวัน กล่าวว่า ในไต้หวันการใช้ยาแผนปัจจุบันของชาติตะวันตกกับยาจีนแผนโบราณควบคู่กันไปในการรักษานั้น มีความนิยมอยู่อย่างแพร่หลาย ซึ่งเรามีความจำเป็นที่จะต้องอบรมบุคลากรทางการแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ก่อผลลัพท์อันเป็นอันตรายใดๆในการให้การรักษา และเราหวังว่าแพทย์หรือเภสัชกรที่ผ่านการอบรมเกี่ยวกับยาแผนโบราณอย่างเป็นมืออาชีพจริงๆ จะค่อยๆ เข้ามาแทนที่ร้านขายยาแผนโบราณเหล่านี้ได้ในไม่ช้า

อย่างไรก็ดีสิ่งที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในไต้หวันมุ่งหวัง ไม่ได้เป็นไปตามนั้น ด้วยความที่มีค่าจ้างและผลกำไรต่ำ จึงไม่เป็นที่ดึงดูดใจแพทย์หรือเภสัชกรที่เป็นคนรุ่นใหม่อายุน้อยๆ ให้สนใจในการแพทย์แผนโบราณมากนัก ขณะที่กลุ่มผู้ป่วยหรือคนไข้เองก็ยังเคยชินกับการไปหาซื้อยาตามร้านขายยามารับประทานเองเสียมากกว่ายามเจ็บไข้เล็กๆน้อยๆ

และแนวทางที่ว่ามาข้างต้นของไต้หวันยังสวนทางกับในจีนและฮ่องกงที่มีนโยบายสนับสนุนและส่งออกยาแผนโบราณกันอย่างเต็มที่จริงจัง แถมโกยเงินเข้าประเทศกันได้อย่างเป็นกอบเป็นกำเสียด้วย!

ข่าวรอบด้าน กับ Line@มติชนนิวส์รูม คลิกเป็นเพื่อนกัน ได้ที่นี่เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image