ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ระบุว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีนายฮาคีม อัล อาไรบี นักฟุตบอลชาวบาห์เรน ที่อัยการได้ยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณาคดีตามคำร้องขอให้มีการส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปยังบาห์เรนว่า ขณะนี้เรื่องได้เข้าสู่กระบวนการศาลแล้ว ในการเดินตามขั้นตอนของกฎหมาย ฝ่ายบริหารไม่สามารถแทรกแซงฝ่ายตุลาการได้ซึ่งเป็นหลักสากล เชื่อว่าทุกประเทศรวมถึงออสเตรเลียก็ยึดถือหลักการนี้เช่นเดียวกัน
นายดอนกล่าวว่า ขออย่าได้ด่วนสรุปว่าไทยจะส่งตัวนายฮาคีมให้กับบาห์เรน เรื่องนี้ศาลจะพิจารณาตามหลักฐานที่มีอยู่ซึ่งมีพื้นฐานจากหมายจับและหมายศาลของบาห์เรนที่ได้มีการส่งเอกสารหลักฐานทางกฎหมายมาให้กับฝ่ายไทย พนักงานอัยการพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าเกณฑ์ตามกฎหมายที่จะส่งฟ้องต่อศาลได้จึงดำเนินการต่อไป ขณะเดียวกันศาลไทยพร้อมรับหลักฐานทุกชิ้นทุกชนิดที่เป็นข้อเท็จจริงและเป็นธรรมต่อนายฮาคีมที่ทนายของนายฮาคีมจะนำส่งให้ศาลพิจารณาเช่นกัน
“ไม่มีส่วนใดของไทยที่จะได้ประโยชน์จากการควบคุมตัวนายฮาคีม แต่เราจับพลัดจับพลูมาอยู่ในภาพของประเด็นปัญหานี้ ในฐานะรัฐอธิปไตยที่มีพันธะทางกฎหมายและความถูกต้องต่อสังคมโลก เราจึงต้องให้ความร่วมมือด้านกฎหมาย ขณะเดียวกันก็ขอให้ออสเตรเลียกับบาห์เรนซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีของไทย และเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน และไม่ว่าแนวทางออกร่วมกันดังกล่าวจะมาในรูปแบบใด ไทยก็ยินดีจะช่วยส่งเสริมให้เป็นจริงและบรรลุผลสัมฤทธิที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย”นายดอนกล่าว
แหล่งข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศเปิดเผยว่า การจับกุมตัวนายฮาคีมของไทยมีจุดเริ่มต้นจากการที่ตำรวจสากลของออสเตรเลียเป็นฝ่ายแจ้งเตือนเรื่องที่นายฮาคีมมีหมายจับ หรือหมายแดงของอินเตอร์โพลมายังไทยหลังจากที่นายฮาคีมเดินทางออกจากออสเตรเลีย และขณะที่รัฐบาลบาห์เรนได้ยื่นขอให้มีการส่งตัวนายฮาคีมในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการเมื่อทราบว่านายฮาคีมถูกทางการไทยควบคุมตัวไว้แล้ว ไทยไม่รู้จักนายฮาคีม ไม่มีอคติต่อตัวบุคคล และคงไม่ยุ่งเกี่ยวกับการมาไทยจนถูกคุมตัวจับกุมของนายฮาคีมหากไม่ใช่เพราะได้รับการแจ้งเตือนจากออสเตรเลียเอง แต่ในเวลาต่อมาตำรวจสากลของออสเตรเลียก็ได้ถอนหมายแดงออกจากระบบของอินเตอร์โพล ซึ่งขณะนั้นทางการไทยได้ควบคุมตัวนายฮาคีมไว้แล้วจึงต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมายต่อไป
