ราคาน้ำมันพุ่งสูงทำสถิติปี 2019 ด้านโอเปค ตัดลดการผลิต

ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งขึ้นเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยราคาน้ำมันดิบ “เบรนต์” ทำสถิติสูงสุดในปี 2019 ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่สหรัฐอเมริกาคว่ำบาตรเวเนซุเอลาและอิหร่าน ขณะที่องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือโอเปค ก็ลดกำลังผลิตลงเช่นกัน

รายงานระบุว่าราคาน้ำมันดิบเบรนต์พุ่งสูงขึ้นถึง 65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นครั้งแรกในปี 2019 ก่อนที่จะปรับลดลงมาอยู่ที่ 64.91 ดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ราคายังคงอยู่ในระดับสูงกว่าปิดตลาดในวันก่อนหน้าที่ 0.5%

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบทั่วโลกก็พุ่งขึ้นเกือบสูงที่สุดในรอบ 3 เดือนที่ 4.5% ในสัปดาห์นี้ด้วย โดยราคาน้ำมันดิบซื้อขายล่วงหน้าของยูเอสเวสต์เท็กซัสอินเทอร์เมดิเอท (ดับเบิลยูทีไอ) อยู่ที่ 54.74 ดอลลาร์/บาร์เรล สูงขึ้น 33 เซ็นต์ หรือราว 0.6% จากราคาตกลงก่อนหน้า

ขณะที่กลุ่มโอเปค และกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่ไม่ได้รวมกลุ่มกับใคร อย่างรัสเซียก็ลดกำลังผลิตลงเช่นกัน ขณะที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันอย่างโอเปคพลัส ก็มีมติที่จะตัดลดกำลังผลิตลง 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ส่วนซาอุดีอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกก็ระบุว่าเตรียมตัดลดกำลังการผลิตลงมากขึ้นกว่าข้อตกลงอีกในเดือนมีนาคมนี้

Advertisement

ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าราคาน้ำมันในปี 2019 นี้ควรมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 70 ดอลลาร์/บาร์เรล ผลจากการตัดลดกำลังผลิตอย่างสมัครใจ (ซาอุดีอาระเบีย, คูเวต, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) การตัดลดโดยไม่สมัครใจ (เวเนซุเอลา, อิหร่าน) รวมไปถึงการลดกำลังผลิตจากกลุ่มประเทศโอเปค เป็นต้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image