วันที่ 8 มีนาคมของทุกปีคือวันสตรีสากล โดยในปีนี้นักรณรงค์เรียกร้องสิทธิสตรีได้ใช้สโลแกนว่า “โลกที่เท่าเทียม คือโลกที่ดีกว่า” เพื่อเรียกร้องความเท่าเทียมให้กับบุรุษให้กับสตรีทั่วโลกโลก แต่ดูเหมือนว่าในหลายประเทศทั่วโลก สิ่งที่ผู้คนเรียกร้องนั้นยากที่จะเกิดขึ้นได้จริง
เจ.พี.มอร์แกน เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับความเท่าเทียมทางเพศก่อนหน้าวันสตรีสากลที่บ่งชี้ว่า มีจำนวนสตรีที่ได้นั่งเก้าอี้บรอร์ดบริหารของบริษัทต่างๆ เพิ่มมากขึ้นทั่วโลกในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มขึ้นในบริษัทใหญ่ๆ ของสหรัฐ ที่เพิ่มขึ้นถึง 22 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2561 มากกว่าตัวเลขเมื่อปี 2560 ที่ผู้หญิงได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารเพิ่มขึ้นเพียง 20.4 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ดี เจ.พี.มอร์แกน รับว่าเป็นเรื่องยากลำบากมากกว่าสำหรับผู้หญิงที่จะก้าวขึ้นมานั่งในตำแหน่งบริหาร โดยตัวเลขของธนาคารเพื่อการลงทุนของสหรัฐบ่งชี้ว่า จำนวนผู้หญิงที่นั่งเก้าอี้ผู้บริหารสูงสุดในบริษัทที่อยู่ในทำเนียบ 500 อันดับแรกของโลกจากการสำรวจของนิตยสารฟอร์จูนลดลงมาอยู่ที่เพียง 5 เปอร์เซ็นต์ในปีที่ผ่านมา จากที่เคยมีอยู่ 6 เปอร์เซ็นต์ในปีก่อนหน้านี้
ตัวเลขเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ยังมีความจำเป็นอีกมากที่ต้องดำเนินการเพื่อที่จะช่วยให้ผู้หญิงมีความก้าวหน้าในชีวิตการงาน โดยรายงานระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลทั่วโลก และรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐได้เริ่มต้นโครงการที่จะทำให้เกิดความหลากหลายทางเพศในคณะกรรมการบริหารบริษัท
ทั้งนี้เจ.พี.มอร์แกนระบุว่า ราว 21 เปอร์เซ็นต์ของบริษัททั่วโลกที่มีการจัดลำดับโดยเอ็มเอสซีไอ ซึ่งมีทั้งบริษัทในประเทศพัฒนาแล้วและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ยังคงมีผู้บริหารเป็นชายล้วน บริษัทเหล่านั้นส่วนใหญ่อยู่ในเอเชีย โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
ขณะที่ประเทศที่มีความก้าวหน้าในด้านความเท่าเทียมทางเพศ โดยมีผู้หญิงอยู่ในบอร์ดบริหารของบริษัทจำนวนมากได้แก่ นอร์เวย์ ฝรั่งเศส สวีเดน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
