อัยการสูงสุดมาเลเซียออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของนายนาจิบ ราซัก นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ที่ถูกกล่าวหามานานว่าทุจริตคอร์รัปชั่น โดยยืนยันว่าเงิน 681 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 24,520 ล้านบาทในบัญชีของนายนาจิบนั้นมาจากการบริจาคเป็นการเป็นการส่วนพระองค์ของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย
ก่อนหน้านี้นาจิบถูกกล่าวหาว่าได้เงินดังกล่าวมาจากกองทุน1เอ็มดีบี กองทุนเพื่อการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งนาจิบปฎิเสธข้อกล่าวหามาโดยตลอด แต่ก็ยังคงมีแรงกดดันให้เขาลาออกจากตำแหน่ง โดยหน่วยงานต่อต้านการทุจริตของมาเลเซียระบุเพียงว่านาจิบได้รับเงินดังกล่าวมาจากผู้บริจาคจากประเทศในตะวันออกกลางเท่านั้น ขณะที่มีรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลของนายนาจิบหลายคนถูกปลดเนื่องจากตั้งข้อสงสัยถึงที่มาของเงินดังกล่าว
นายโมฮัมเหม็ด อะปันดี อาลี อัยการสูงสุดของมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า เงินทั้งหมดซึ่งเป็นการบริจาคส่วนพระองค์จากเชื้อพระวงศ์ซาอุดีอาระเบียถูกโอนเข้ามาในช่วงปลายเดือนมีนาคม-ต้นเดือนเมษายน 2556 พร้อมกับยืนยันว่าหน่วยงานต่อต้านการคอร์รัปชั่นของมาเลเซียได้พบกับพยานที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงเชื้อพระวงศ์ที่ทรงบริจาคเงินดังกล่าวเพื่อยืนยันความถูกต้องของเรื่องราวทั้งหมด
อัยการสูงสุดยังยืนยันด้วยว่าไม่มีหลักฐานใดๆ ที่บ่งชี้ว่าเงินดังกล่าวมาจากการทุจริต หรือให้เพื่อจูงใจให้กระทำอะไรบางอย่างหรือเป็นรางวัลสำหรับการดำเนินการใดๆ ภายใต้สถานะของนายกรัฐมนตรีมาเลเซียด้วย และไม่มีการละเมิดกฎหมายใดๆ โดยนายนาจิบเกี่ยวกับการสวบสวนอีก 3 กรณีที่เกี่ยวเนื่องกัน และจะไม่มีการดำเนินการใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีก
นายโมฮัมเหม็ดระบุด้วยว่า นายนาจิบได้ส่งมอบเงิน 620 ล้านคืนให้กับผู้บริจาคแล้ว อย่างไรก็ดียังคงมีคำถามว่าแล้วเงิน 61 ล้านที่ไม่ได้ส่งมอบคืนนั้นอยู่ที่ใด ขณะที่สังคมมาเลเซียยังคงตั้งคำถามในกรณีนี้ โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่านายโมฮัมเหม็ดเพิ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัยการสูงสุดเมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่นายนาจิบได้ปลดอัยการสูงสุดคนเก่าออกเนื่องจากเรื่องอื้อฉาวจากเงินบริจาคดังกล่าว