สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคมที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษของสหรัฐอเมริกา ผู้ได้รับแต่งตั้งเป็นหัวหน้าทีมสอบสวนการกล่าวหารัสเซียแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2016 โดยมีทีมหาเสียงของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐซึ่งเป็นผู้สมัครอยู่ในขณะนั้นสมรู้ร่วมคิดกับรัสเซียด้วยหรือไม่ ได้มอบรายงานผลการสอบสวนในคดีนี้หลังจากใช้เวลาสอบสวนราว 2 ปี ให้กับนายบิล บาร์ อัยการสูงสุดของสหรัฐแล้ว
โดยหลังได้รับมอบรายงานผลการสอบสวนนี้ นายบาร์ได้ทำหนังสือแจ้งต่อไปยังสภาคองเกรสระบุว่าตนอาจสามารถสรุปรายงานผลการสอบสวนฉบับนี้ที่ถือเป็นความลับ ต่อสภาคองเกรสได้อย่างเร็วที่สุดในสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่มีเสียงเรียกร้องของสมาชิกทั้งจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตที่ขอให้มีการเปิดเผยรายงานฉบับเต็มของผลการสอบสวนนี้ต่อสาธารณชน โดยที่ทรัมป์และทีมงานของทรัมป์จะต้องไม่เห็นรายงานผลการสอบสวนนี้ก่อน
ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับผลการสอบสวนของมุลเลอร์ถูกแพร่งพรายออกมา แต่สิ่งหนึ่งที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐสามารถยืนยันได้คือมุลเลอร์ไม่ได้ให้มีการฟ้องร้องใครเพิ่มเติม ขณะที่ในระหว่างการสอบสวนคดีนี้มุลเลอร์ได้ยื่นฟ้องดำเนินคดีต่อบุคคลรวมแล้ว 34 ราย และบริษัท 3 แห่ง ในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซีย 25 คน และอดีตที่ปรึกษาของทรัมป์ 6 คน ได้แก่ พอล มานาฟอร์ต, ริก เกตส์, ไมเคิล ฟลินน์, ไมเคิล โคเฮน, จอร์จ ปาปาโดปูลอส และโรเจอร์ สโตน
ทั้งนี้ มุลเลอร์ที่เป็นอดีต ผอ.เอฟบีไอ ได้รับการแต่งตั้งในปี 2017 ให้เป็นหัวหน้าทีมสอบสวนกรณีกล่าวหารัสเซียใช้อิทธิพลแทรกแซงการเลือกตั้งสหรัฐโดยสมคบกับทีมหาเสียงของทรัมป์เพื่อหวังผลให้ทรัมป์ชนะนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งปี 2016 และกรณีกล่าวหาทรัมป์ขัดขวางกระบวนการยุติธรรมซึ่งทรัมป์ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและโจมตีกลับว่าเป็นความพยายามของ “การล่าแม่มด”