เมื่อวันที่ 23 มีนาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ชาวอังกฤษนับหลายแสนคนที่คัดค้านการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป(อียู)ของอังกฤษ หรือ เบร็กซิท รวมตัวกันเดินขบวนประท้วงไปตามท้องถนนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในการเรียกร้องให้มีการจัดทำประชามติใหม่เรื่อง “เบร็กซิท” ท่ามกลางวิกฤตขัดแย้งเรื่องร่างข้อตกลงเบร็กซิทของรัฐบาลนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรี ที่ยังไม่สามารถผ่านความเห็นชอบร่วมกันได้ในรัฐสภาได้และทำให้นางเมย์ตกอยู่ในความเสี่ยงที่จะหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอังกฤษมากขึ้น
การออกมาชุมนุมให้ทำประชามติเรื่องเบร็กซิทใหม่ของกลุ่มผู้ประท้วงนับแสนคนครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากวันก่อนหน้านางเมย์กล่าวเปรยว่าจะไม่นำร่างข้อตกลงเบร็กซิทของรัฐบาลตนที่ถูกโหวตต้านในรัฐสภามาแล้วถึง 2 ครั้งก่อนหน้านี้ เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาอีกในสัปดาห์หน้า ซึ่งนั่นจะทำให้แผนเบร็กซิทของรัฐบาลนางเมย์ล้มเหลว ที่เดอะไทม์สและเดอะ เดลีเทเลกราฟรายงานว่ากำลังมีความกดดันมากขึ้นที่จะให้นางเมย์ลาออกจากตำแหน่งไป
นางแอนนา ซูบรี ส.ส.อังกฤษที่สนับสนุนการอยู่ในอียูกล่าวว่า นางเมย์จะต้องไปและเราจำเป็นจะต้องมีนายกรัฐมนตรีชั่วคราวที่เราสามารถเอื้อมถึงได้ที่จะต้องให้ประเทศมาก่อนและคืนอำนาจให้ประชาชนชาวอังกฤษ
ฟีบี พูล อายุ 18 ปีที่เข้าร่วมในการเดินขบวนเรียกร้องการทำประชามติเรื่องเบร็กซิทใหม่ กล่าวว่า เรามาในวันนี้เพราะเรารู้สึกว่าอนาคตของเรากำลังถูกปล้นไป เป็นคนรุ่นเราที่จะต้องอยู่กับผลลัพท์ของหายนะครั้งนี้ ซึ่งจะทำให้เราหางานได้ยากขึ้น และเราได้เห็นกันแล้วว่าหลายบริษัทใหญ่ได้ถอนตัวออกไป
ข่าวระบุว่า มีรถโค้ชมากกว่า 200 คันจากทั่วอังกฤษถูกจองไว้หมดเพื่อขนคนเข้ามาร่วมชุมนุมในกรุงลอนดอน ขณะที่มีการรวบรวมรายชื่อผู้คนได้มากถึง 4 ล้านคนภายใน 3 วันในคำร้องให้ยกเลิกการทำเบร็กซิท หลังจากนางเมย์กล่าวเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาอังกฤษสนับสนุนร่างข้อตกลงของรัฐบาลตนเอง
