‘วีรชัย’ ในความทรงจำ

หมายเหตุ “มติชน” การจากไปของท่านทูตวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่จะทำให้ทุกคนที่ได้ทราบต่างตกใจกับข่าวร้ายอันไม่คาดคิด และเสียใจที่คนมีความสามารถรอบด้าน ซึ่งน่าจะทำประโยชน์อีกมากมายให้กับประเทศไทยได้จากไปก่อนวัยอันควร “มติชน” จึงเปิดพื้นที่ตรงนี้ เพื่อให้พี่น้องผองเพื่อนไปจนถึงคนที่รู้จักและใกล้ชิดสนิทสนมกับ “ทูตแสบ” ได้ทำให้พวกเราคนไทยเห็นถึงมุมของความเป็นมนุษย์ที่มีครบรส ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า 58 ปีที่ผ่านมา ทูตแสบได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่ามากที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งพึงกระทำได้แล้ว
สัปดาห์นี้เป็นความทรงจำและความในใจจาก ท่านทูตรัศม์ ชาลีจันทร์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซักสถาน นักดนตรีผู้ร่วมก่อตั้งวง Saranrom Sojourners Band (SSB) และท่านทูตมรกต ศรีสวัสดิ์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย น้องรักที่ใกล้ชิดกับทูตแสบมากที่สุดอีกคนหนึ่ง

ท่านหัวหน้าวง

รัศม์ ชาลีจันทร์
เอกอัครราชทูต ณ กรุงอัสตานา ประเทศคาซักสถาน

แด่ท่านหัวหน้าวง
He earned his love through discipline
A thundering, velvet hand
His gentle means of sculpting souls
Took me years to understand
The leader of the band is tired
And his eyes are growing old
But his blood runs through my instrument
And his song is in my soul
My life has been a poor attempt
To imitate the man
I’m just a living legacy to the leader of the band…
The Leader of the Band, Dan Fogelberg
………………………………..

เมื่อแรกรับรู้ข่าวของท่านทูตวีรชัย พลาศรัย หรือที่พวกเราเรียกท่านทูตแสบ หรือแสบเฉยๆ ตามแต่โอกาส ผมยังไม่ทันได้รู้สึกอะไรไปกว่าความตกใจและใจหายต่อการจากไปอย่างรวดเร็วที่ไม่คาดฝันเช่นนี้ กว่าหนึ่งวันผ่านไป จนผมมีเวลาอยู่ตามลำพังและหยิบกีต้าร์ขึ้นมาเล่น นิ้วมือของผมไต่ไปตามเส้นสายในแนวเพลงบลูส์ตามความเคยชิน จากนั้นก็เริ่มเล่นเพลงที่พวกเราเคยเล่นด้วยกัน และแล้วภาพต่างๆ ในความทรงจำ เสียงเพลง เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ก็ถาโถมเข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว เช่นเดียวกับสายน้ำตา ต่อแต่นี้ไป เราจะไม่มีท่านหัวหน้าวงอีกแล้ว
………………………………………………….

Advertisement

ภาพแรกที่ผมเห็นเขาคือกว่าสามสิบปีมาแล้ว เขายืนอยู่แถวหน้าลิฟท์ด้านหมวดยานยนต์ของวังสราญรมย์อันเป็นที่ตั้งของกระทรวงการต่างประเทศในสมัยนั้น ในสายตาของผม เขาเป็นชายหนุ่มร่างออกท้วมใส่แว่นตาหนาท่าทางคงแก่เรียน ผมรับรู้ว่าเขาเป็นนักกฎหมายที่อนาคตไกล แต่ตอนนั้นผมไม่รู้ว่าภายใต้ภาพนักการทูตหนอนหนังสือนั้น เขาคือนักดนตรีที่มีฝีมืออันชาญฉกาจ

ทูตรัศม์ ชาลีจันทร์ และทูตทรงพล สุขจันทร์ วง SSB

น่าจะในราวปี 2544 เมื่อแสบเป็นผู้อำนวยการกองสนธิสัญญาแล้ว เขาเป็นตัวตั้งตัวตีชวนตั้งวงดนตรี พวกเราไปเดินท่อมๆ แถวเวิ้งนาครเกษมเพื่อซื้ออุปกรณ์ดนตรีต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่แสบจะเป็นผู้เลือกเองกับมือทั้งสิ้น ตอนแรกเราเล่นกันเพียงเครื่องดนตรีสามชิ้นในแนว Standard Popular Music ต่อมาวงดนตรีของเราขยายเติบโตมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนในราวปี 2545 วงดนตรี Saranrom Sojourners Band (SSB) ก็ถือกำเนิดขึ้น ด้วยความที่เขามีบุคลิกผู้นำ เป็นผู้รอบรู้ทางด้านดนตรี เล่นเครื่องดนตรีได้เกือบทุกชนิด และมีตำแหน่งหน้าที่อาวุโสกว่า แสบจึงเป็นหัวหน้าวงของพวกเราโดยดุษฎี เขาจะเป็นคนคอยแกะเพลงทุกเพลงให้เราเล่นโดยเขียนเป็นชาร์ตแบ่งเพลงออกเป็นห้องๆ ซึ่งเป็นวิธีที่เข้าใจง่ายและมีประสิทธิภาพมากในการเล่น และที่สำคัญเขาจะเป็นคนคอยเคี่ยวเข็นจ้ำจี้จ้ำไชให้พวกเราซ้อมดนตรีเสมอเพราะเขาเป็นผู้มีวินัยสูงมาก เพลงที่เราเล่นก็มีความหลากหลายมากขึ้น เช่นเดียวกับฝีมือที่พัฒนายิ่งขึ้น เขาจะคอยผลักดันเราเสมอ นอกจากจะแสดงตามงานต่างๆ ของกระทรวงฯแล้ว เขายังเคยพาเราไปเล่นที่คลับดนตรีที่มีชื่อ ซึ่งถือได้ว่าวงของเรามีความสามารถเข้าขั้นมืออาชีพ และคงไม่ผิดนักที่จะกล่าวได้ว่าถ้าปราศจากแสบ ก็ยากที่วงนี้จะมีขึ้นได้

วง SSB

ภายหลังเมื่อพวกเราต่างทยอยแยกย้ายกันออกประจำการต่างประเทศ ผมได้ทราบว่าไม่ว่าจะไปที่ไหน แสบก็ยังเล่นดนตรีที่เขารัก และต่อมายังตั้งวงที่สามารถสร้างชื่อเสียงได้ในระดับระหว่างประเทศ ณ ที่สหประชาชาติเมื่อเขาไปเป็นประจำการที่นิวยอร์ก

Advertisement

ถ้าหากการได้รับใช้ประเทศชาติด้วยความรู้ความสามารถอันไพศาล คือความภาคภูมิใจของเขา การได้เล่นดนตรีก็น่าจะคือความรักและ passion ที่นับได้ว่าเป็นตัวตนที่แท้จริงของท่านทูตวีรชัย ภาระงานในหน้าที่ระดับชาติที่เขาแบกไว้บนบ่า เป็นแรงกดดันอันหนักหน่วงที่ทำให้บางครั้งเขาต้องดุดันในเวลาทำงาน เพราะไม่ต้องการให้เกิดความผิดผลาดขึ้นแม้แต่น้อย แต่ในยามที่เล่นดนตรีคือช่วงเวลาที่เขามีความสุข มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้ม นั่นคือด้านและภาพอันอ่อนโยนของเขา

ก่อนหน้าไม่นานมานี้เอง เรายังคุยกันว่าเมื่อเกษียณแล้วเราจะมาทำเพลงเล่นดนตรีกันใหม่ แต่บัดนี้ท่านหัวหน้าวงได้จากพวกเราไปแล้ว และก็คงไม่มีใครจะมาทดแทนเขาได้ สิ่งหนึ่งที่ช่วยปลอบประโลมผมได้คือความเชื่อมั่นว่า ณ ที่ๆ มีแต่ความงดงาม ท่านทูตวีรชัยกำลังเล่นกีต้าร์แจมกับ Jimi Hendrix, Stevie Ray Vaughan, B.B.King และบรรดากีต้าร์ฮีโร่ที่ล่วงหน้าไปรอเขาอยู่แล้ว และ ณ ที่แห่งนั้น เสียงเพลงอันเป็นที่รักของเขา จะดังก้องกังวาลตลอดไป
…………………………….

ความรักที่เขาได้รับ มาด้วยวินัยแห่งการฝึกฝนอย่างมุ่งมั่น
ด้วยมือที่แกร่งกร้าวปานสายฟ้าฟาด ที่บางครานิ่มนวลดังกำมะหยี่
เขาสลักเสลาปั้นแต่งจิตวิญญาณด้วยวิธีการอันอ่อนละมุน
ซึ่งใช้เวลาเนิ่นนานนักกว่าผมจะเข้าใจ
ทว่าบัดนี้ท่านหัวหน้าวงเริ่มอ่อนล้า
ดวงตาของท่านพร่าเริ่มหมองลง
แต่เลือดเนื้อและจิตวิญญาณท่าน ยังคงไหลผ่านตัวโน้ตยามผมเล่นดนตรี
ชีวิตผมเป็นเพียงแค่ความพยายามอันอ่อนด้อย ที่จะเลียนแบบชายผู้นี้
ผมเป็นได้แค่เศษเสี้ยวของตำนานของท่านผู้นำแห่งวงของเรา

จากเพลง Leader of The Band ของ Dan Fogelberg

หัวหน้าฝ่ายเอเปคของพี่

มรกต ศรีสวัสดิ์
เอกอัครราชทูต ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

พี่คะ

หนูไม่มีคำบรรยายความรู้สึกสูญเสียครั้งนี้ได้ดีเท่าความรู้สึกที่เกิดจริงกับหนูนะคะ พี่เป็นทั้งครู พี่ชาย นาย และบางทีก็เป็นเพื่อนเล่นกันเวลาที่พี่หัวเราะกับเรื่องตลกบ้าบอของหนู แล้วเราก็รู้กันอยู่สองคน ต่อเรื่องต่อราวให้ไร้สาระยิ่งขึ้นไปอีกในบางครั้งจนถูกท่านอดีตปลัดฯ มองด้วยสายตาดุแบบ “อะไรกัน”

พี่สอนให้รู้จักทำงานให้ละเอียด รอบคอบ คิดให้รอบด้าน แต่สื่อสารให้สั้น กระชับ ได้ใจความ พี่เป็นคนที่รอบรู้ทุกเรื่องทุกอย่าง ไม่ใช่แค่เรื่องงาน ภาษา หรือเรื่องกฎหมายระหว่างงประเทศที่พี่เชี่ยวชาญ แต่เรื่องโบร่ำโบราณของไทย เรื่องอาหารไทย อาหารฝรั่ง เรื่องดนตรี พี่ก็รอบรู้ครบเครื่องทั้งสิ้น หนูว่า ตอนพี่คิดเริ่มตั้งวงและคัดสรรคนไปช่วยงานที่นิวยอร์ก คงไม่มีใครเชื่อหรือคิดทันว่า music diplomacy ของพี่จะเป็น talk of the town ที่นิวยอร์ก เป็นที่ชื่นชมของคณะทูตอย่างกว้างขวาง love boat ของพี่ข้ามจากเจ้าพระยาไปแม่น้ำฮัดสันอย่างสวยงามจริงๆ ค่ะ ดีใจที่หนูได้มีส่วนเล็กๆ อยู่ในกระบวนการก่อการนี้ด้วย

ความรักเมตตา และหวังดีของพี่ต่อเด็กๆ สะท้อนชัดเจนในข้อความที่น้องๆ เขียนถึงพี่ในเฟซบุ๊กและที่ต่างๆ แทบทุกคนรวมทั้งหนูเคยผ่านการเคี่ยวและกลั่นจากพี่ หนูเชื่อว่าในวันนี้ ทุกคนเข้าใจและภูมิใจที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาจากพี่กันทั้งนั้น ให้เป็นคนครบเครื่องอย่างที่พี่อยากเห็น พี่ส่งเสริมให้ทุกคนได้ทำงานอย่างเต็มกำลัง ได้ใช้ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ ถ้าย่อหย่อนไป พี่ก็มีวิธีกระตุ้นในแบบฉบับของพี่ ทุกสิ่งล้วนเพื่อประโยชน์ของส่วนรวมทั้งสิ้น พี่มีสายตาที่เจาะลึกเห็นศักยภาพของคน และมักจะถูกต้องเสมอ ถ้าไม่ได้ ไม่ใช่จริงๆ ซึ่งน้อยครั้งจะเกิดขึ้น พี่ก็ยอมรับ บางคนที่พี่เลือกอาจถูกมองด้วยความรู้สึกคัดค้านจากคนทั่วไป แต่พี่ก็ยืนยันว่า “เขาทำในสิ่งที่ผมทำไม่ได้” และเขาก็ทำให้พี่ได้จริงๆ อย่างที่พี่ต้องการ

ความรู้ความสามารถและความฉลาดรอบคอบของพี่ รวมกับความตั้งใจ ความมุ่งมั่น ความประณีต ละเอียดรอบคอบ การวางแผนที่แยบยล ความอ่อนน้อมกับผู้ใหญ่ ทำให้ทุกเรื่องที่ผ่านมือพี่ ล้วนประสบความสำเร็จทั้งสิ้น แม้บางเรื่องผลลัพธ์จะไม่ใช่อย่างที่คาดหวัง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นจากการทำงานหนักของพี่ ส่งผลเกินความคาดหมายเสมอ สร้างชื่อเสียงและการยอมรับให้กับประเทศไทยในเวทีโลกเสมอ มีเรื่องอีกมากมายที่พี่ทำงานอย่างปิดทองหลังพระ และส่งผลให้เกิดคุณค่าความดีงาม นำไปสู่ความสำเร็จด้วยเช่นกัน

สิ่งหนึ่งที่คงจะเป็นความทรงจำของทุกคนที่เคยทำงานกับพี่คือ ฉายาที่พี่ตั้งให้กับคนรอบตัว คงไม่ต้องบอกว่าใครเป็นใคร ทุกคนที่ทำงานกับพี่คงรู้จักฉายาเหล่านี้ดี คุณพี่, ท่าน R2D2, C-3PO, Bibendum, หม่อมหลวงปิ่น, พี่ผี หรือ ผีโม่แป้ง,หัวหน้าฝ่ายเอเปค, จุมโพ่ ฯลฯ คนที่ไม่มีฉายาเฉพาะก็จะได้รับการเรียกขานชื่อโดยขึ้นต้นว่า ท่าน หรือ ไอ้ หากสนิท

หนูขอบคุณพี่สำหรับทุกสิ่งที่พี่เคยสอน เคยแนะนำ ให้ความรู้ ขอบคุณสำหรับความรัก ความเมตตา และการดูแลสนับสนุนที่มีให้มาตลอด หนูได้ทำงานอย่างสนุก และรู้สึกว่างานที่ทำมีประโยชน์กับคนอื่นเพราะความหวังและกำลังใจที่ได้รับจากพี่ หนูภูมิใจและดีใจที่เคยได้เป็นลูกน้องของพี่ค่ะ

พี่มีความหวังและกำลังใจอย่างเข้มแข็งมาตลอด พี่บอกหนูว่า “ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ผมรู้สึก รับได้ (เหมือนผู้วิเศษ)” หนูเชื่อว่าคุณงามความดีที่พี่ทำมาและความเข้าใจอย่างลึกซึ้งของพี่ในคำสอนของพุทธศาสนาจะนำพี่ไปสู่ที่ที่สงบสุข หนูจะยินดีและเต็มใจมากถ้าจะได้ดูแลพี่ลิซบ้าง พี่เป็นที่รักและเคารพของหนูเสมอค่ะ

หนฝ.เอเปคของพี่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image