สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 31 มีนาคม หนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทม์ส ของอังกฤษรายงานว่า นายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ เตรียมการยื่นร่างความตกลงเบร็กซิทซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสหภาพยุโรป (อียู) แต่ถูกสภาสามัญหรือสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษไม่ให้ความเห็นชอบมาแล้ว 3 ครั้ง กลับเข้าสู่การพิจารณาของสภาอีกครั้งในเร็วๆนี้ โดยหวังว่าสถานการณ์ตีบตันในขณะนี้จะช่วยให้สภาฯให้ความเห็นชอบด้วยเสียงข้างมากในที่สุด แต่ก็เสี่ยงที่จะทำให้รัฐบาลอังกฤษชุดปัจจุบันถึงขั้นล่ม และหมดโอกาสที่จะใช้ทางเลือกอื่นๆ ที่อาจยังมีอยู่ได้ ท่ามกลางกระแสข่าวลือสะพัดว่ารัฐบาลอาจจำเป็นต้องจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ในเร็วๆนี้
การดิ้นรนเฮือกสุดท้ายดังกล่าวมีขึ้นหลังจากรัฐบาลแพ้มติด้วยคะแนนเสียง 58 คะแนนในการโหวตรับ-ไม่รับร่างเบร็กซิทเมื่อวันที่ 29 มีนาคมที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลเหลือเวลาอีกเพียงไม่ถึง 2 สัปดาห์ต้องเผชิญกับเส้นตาย ต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกอียูโดยไม่มีการทำความตกลงใดๆ ในวันที่ 12 เมษายนนี้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงทางด้านเศรษฐกิจทั้งต่ออังกฤษ อียู และทั่วโลก แต่รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลอย่างน้อย 6 คนแสดงท่าทีชัดเจนว่าจะลาออกจากตำแหน่งพร้อมกันหากเกิดโนดีลเบร็กซิท ในขณะที่รัฐมนตรีอีกกลุ่มที่หนุนเบร็กซิท ก็ประกาศลาออกเช่นกันหากเมย์ยอมคงอยู่ในสหภาพศุลกากรของอียู ซึ่งทำให้อังกฤษต้องใช้ระเบียบพิธีและพิกัดอัตราภาษีศุลกากรของอียูต่อไป และจะลาออกเช่นกันหากเมย์พยายามหาทางเลื่อนเบร็กซิทออกไปอีก
ด้านเดอะ เมล์ ออน ซันเดย์ ระบุว่า บรรดาที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีอังกฤษเองก็แตกความเห็นออกเป็น 2 ส่วน มีทั้งค้านและสนับสนุนให้จัดการเลือกตั้งใหม่ขึ้นหากการยื่นญัตติขอความเห็นชอบหนที่ 4 ไม่เป็นผลสำเร็จ แต่ระบุว่าการประกาศให้เลือกตั้งใหม่อาจมีขึ้นในช่วงหลังจากการพิจารณาญัตติของรัฐบาลกับการประชุมสภาเพื่อพิจารณาทางเลือกอื่นที่อาจได้รับเสียงข้างมากสนับสนุน ซึ่งกำหนดไว้ในที่ 4 เมษายนนี้ ดังนั้นการประกาศการเลือกตั้งใหม่อาจมีขึ้นในวันที่ 3 มษายนนี้ อย่างไรก็ตาม การเลือกตั้งใหม่ดังกล่าวต้องได้รับเสียงสนับสนุน 2 ใน 3 ของสภา และแม้ว่าส.ส.พรรคแรงงานที่เป็นฝ่ายค้านต้องการเช่นนี้ แต่ส.ส.คอนเซอร์เวทีฟ กลับลังเลที่จะให้มีเลือกตั้งใหม่เพราะเกรงว่าอาจจะถูกโค่นตกเก้าอี้พร้อมกันทั้งหมด
