เมื่อวันที่ 11 เมษายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญของเกาหลีใต้มีคำสั่งให้ยกเลิกการห้ามทำแท้งในประเทศเกาหลีใต้ที่บังคับใช้มานาน ซึ่งผู้หญิงเกาหลีใต้และกลุ่มนักรณรงค์ด้านสิทธิชี้ว่าเป็นจำกัดสิทธิและทำให้ผู้หญิงตกอยู่ในความเสี่ยงอันตราย
โดยคณะผู้พิพากษาศาลรัฐธรรมนูญลงความเห็นด้วยเสียง 7 ต่อ 2 เสียง ชี้ว่ารัฐบัญญัติปี 1953 ของเกาหลีใต้ที่มุ่งปกป้องชีวิตและค่านิยมดั้งเดิมนั้นขัดต่อรัฐธรรมนูญ โดยการห้ามทำแท้งเป็นการจำกัดสิทธิของผู้หญิงในการดำเนินชีวิตของตนเองและยังเป็นการละเมิดสิทธิด้านสุขภาพโดยการจำกัดการเข้าถึงวิธีการอันปลอดภัยและเหมาะสม จึงเห็นควรให้มีการพิจารณาทบทวนกฎหมายนี้ภายในปีหน้า
หลังสิ้นคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญเกาหลีใต้ ที่ตั้งอยู่ในกรุงโซล กลุ่มผู้หญิงจำนวนหลายร้อยคนรวมถึงกลุ่มวัยรุ่นและสตรีผู้พิการที่รอฟังคำตัดสินของศาล บ้างพากันร้องไห้ด้วยความยินดี บ้างส่งเสียงเชียร์ด้วยความดีใจที่การต่อสู้เรียกร้องสิทธิในการทำแท้งของผู้หญิงในเกาหลีใต้ได้ประสบผลสัมฤทธิ์ในวันนี้
แบ บ๊ก จู นักเคลื่อนไหวรายหนึ่งกล่าวถึงความรู้สึกว่า ในวันนี้ผู้หญิงสมควรที่จะมีความสุขให้มากเท่าที่พวกเราต้องการ คำตัดสินของศาลวันนี้มีขึ้นเพราะการต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดของผู้หญิงจำนวนมากเพื่อสิทธิพึงมีของพวกเขาที่ต่อสู้กันมานานหลายปี เราสมควรได้รับการสนใจและการยอมรับจากโลก
อย่างไรก็ดีข่าวแจ้งว่าบริเวณหน้าศาลรัฐธรรมนูญยังมีกลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้งรวมตัวกันอยู่เพื่อคัดค้านการยกเลิกกฎหมายห้ามทำแท้งด้วย
ทั้งนี้เกาหลีใต้ยังคงเป็นหนึ่งในประเทศอุตสาหกรรมเพียงไม่กี่ประเทศในโลกที่กำหนดให้การทำแท้งเป็นการกระทำผิดกฎหมาย ยกเว้นในกรณีถูกข่มขืน การร่วมประเวณีโดยผิดประเพณี และการตั้งครรภ์ทารกเป็นอันตรายต่อผู้เป็นแม่ โดยกฎหมายห้ามทำแท้งของเกาหลีใต้บัญญัติบทลงโทษผู้หญิงที่กระทำผิดคือโทษจำคุก 1 ปีและปรับเงิน ส่วนแพทย์ผู้ทำแท้งให้มีโทษจำคุก 2 ปี
ด้านโพลสำรวจความคิดเห็นที่มีการเผยแพร่เมื่อวันพุธ(10 เม.ย.)ชี้ว่าชาวเกาหลีใต้ 58 เปอร์เซ็นต์สนับสนุนให้ยกเลิกกฎหมายห้ามทำแท้ง
