‘ซาอุฯ’ ประหารชีวิตหมู่ 37 รายรวด มีจับตรึงกางเขน แอมเนสตี้ประณาม ชี้เป็นเครื่องมือกำจัดศัตรูการเมือง

มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบีย (เอเอฟพี)

สำนักข่าวซาอุดีเพรส (เอสพีเอ) ของทางการซาอุดีอาระเบีย รายงานว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบีย ได้ประหารชีวิตนักโทษชาวซาอุฯจำนวน 37 คน ที่ได้รับโทษในข้อหาก่อการร้าย เมื่อวันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา การประหารชีวิตดังกล่าวมีขึ้น 3 ปี หลังซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตหมู่นักโทษ 47 ราย ที่ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและอิหร่านต้องถูกตัดขาดออกจากกัน

เอสพีเอรายงานว่า นักโทษกลุ่มดังกล่าวต้องรับโทษประหารเนื่องจากมีแนวคิดก่อการร้าย มีแนวคิดสุดโต่ง แอบตั้งกลุ่มก่อการร้าย ทุจริตและกัดกร่อนความมั่นคงของประเทศ โดยในจำนวนผู้ถูกประหารชีวิตมี 1 รายที่ถูกจับตรึงกางเขนหลังจากเสียชีวิตแล้ว บทลงโทษที่เป็นผลจากความผิดร้ายแรง

ขณะที่องค์การนิรโทษกรรมสากลแถลงประณามการประหารชีวิตหมู่ดังกล่าวเนื่องจากนักโทษส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะห์ โดยระบุว่าเป็นการประหารที่ใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และเป็นนักโทษที่เป็นผลจากการพิจารณาคดีและสอบสวนอย่างไม่เป็นธรรม

ชาวมุสลิมชีอะห์เป็นประชาชนส่วนน้อยของประเทศซาอุดีอาระเบีย มีประชากรราว 10-15 เปอร์เซ็นต์ โดยประชากรส่วนใหญ่เป็นมุสลิมสุหนี่ ขณะที่การประหารชีวิตหมู่ 47 คน เมื่อเดือนมกราคม 2549 สร้างความไม่พอใจให้กับชาวมุสลิมชีอะห์ในอิหร่าน เมื่อหนึ่งในนั้นเป็นครูสอนศาสนาชาวชีอะห์ชื่อดังที่ถูกตัดสินให้มีความผิดฐานก่อการร้าย ส่งผลให้เกิดการประท้วงและเกิดเหตุโจมตีอาคารสถานทูตซาอุดีอาระเบียในอิหร่าน ส่งผลให้ความสัมพันธ์สองประเทศต้องตัดขาดออกจากกันตั้งแต่นั้น

Advertisement

ทั้งนี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียประหารชีวิตนักโทษซึ่งมักดำเนินการด้วยการตัดศีรษะไปแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ราย ขณะที่ข้อมูลจากองค์การนิรโทษกรรมสากล ระบุว่ารัฐบาลซาอุฯตัดสินโทษประหารชีวิตกับนักโทษไปแล้ว 149 ราย เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา โดยมีอิหร่านประเทศเดียวที่ประหารชีวิตนักโทษจำนวนมากกว่า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image