สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ว่า เจ้าชาย นารุฮิโตะ รัชทายาทแห่งราชวงศ์เบญจมาศผ่านการสถาปนาเป็นพระจักรพรรดิพระองค์ใหม่อย่างเป็นทางการแล้วเมื่อเวลาประมาณ 10.15 น. ตามเวลาท้องถิ่นของญี่ปุ่น หลังผ่านพระราชพิธีขึ้นครองราชบัลลังก์ หรือ เคนจิ โตะ โชเกอิ โน ไก ณ ท้องพระโรงไม้สน ในพระราชวังอิมพีเรียล กรุงโตเกียว พร้อมๆ กับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคเรวะ ยุคใหม่ซึ่งโดยชื่อหมายความถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อยและความสมานฉันท์อันงดงามของประเทศซึ่งจะดำเนินต่อไปจนสิ้นรัชสมัยของจักรพรรดินารุฮิโตะ
ราชพิธีสืบทอดราชบัลลังครั้งนี้มีขึ้นหลังจากอดีตสมเด็จพระจักรพรรดิ อากิฮิโตะ ซึ่งขณะนี้ดำรงอิสริยยศเป็น โจโก หรือ พระจักรพรรดิพระเจ้าหลวง ประกอบพระราชพิธีสละราชสมบัติอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยการเสด็จฯออกยังท้องพระโรงไม้สน ในฉลองพระองค์ชุดสูทสากล พร้อมสังวาลย์ทองคำประจำราชสำนัก เพื่อรับการทูลเกล้าฯถวายเครื่องราชกกุธภัณฑ์ซึ่งพระราชบิดาที่มีพระชนมายุ 85 พรรษาทรงสละเมื่อ 1 วันก่อนหน้านี้ ทั้งพระแสงดาบคุซานางิ และอัญมณีมางาตามะ รวมทั้งตราประจำแผ่นดิน และพระราชลัญจกร (ตราประจำพระองค์พระจักรพรรดิ) เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการสืบราชบัลลังก์ เป็นอันแล้วเสร็จพิธี
ทั้งนี้พระราชพิธีดังกล่าว อนุญาตให้มีเพียงเชื้อพระวงศ์ชายชั้นผู้ใหญ่ที่บรรลุนิติภาวะแล้วเท่านั้นสามารถเข้าร่วมในพิธี ไม่อนุญาตให้สตรีใดร่วมอยู่ในราชพิธีนี้ รวมทั้งพระจักรพรรดินี มาซาโกะ แต่อนุญาตให้นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งหมด กับตัวแทนจากฝ่ายนิติบัญญัติและตุลาการ ทำให้ นางซัตสึกิ คาตายามะ รัฐมนตรีกระทรวงกิจการบูรณะภูมิภาคและการส่งเสริมสถานภาพสตรี ซึ่งเป็นรัฐมนตรีหญิงคนเดียว สามารถเข้าร่วมในพิธีได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น
สมเด็จพระจักรพรรดินีพระองค์ใหม่ เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่ง เข้าร่วมสมทบกับสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ไม่นานหลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีขึ้นครองราชบัลลังก์แล้ว ในฉลองพระองค์สีขาวพร้อมสายสะพาย ทรงมงกุฎประดับเพชรเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีช่วงที่สอง ซึ่งพระจักรพรรดินารุฮิโตะ ทรงประกาศพระปฐมบรมราชโองการ หลังขึ้นครองราชย์เรียบร้อยแล้ว โดยโดยในพระราชดำรัสสั้นๆ เพื่อการนี้ ทรงแสดงความคาดหวังถึงความปรกติสุขแห่งปวงชน ประเทศชาติรุดหน้ารุ่งเรือง และทั่วโลกเต็มไปด้วยสันติภาพ ประกาศจะปฏิบัติพระองค์ตามบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ นอกจากนั้นยังทรงแสดงกตเวทิคุณต่อองค์พระจักรพรรดิพระเจ้าหลวง พระราชบิดา ปวารณาตัวจะเจริญรอยตาม ด้วยพระสุรเสียงสั่นเครือเมื่อตรัสถึงการอุทิศพระองค์ต่อประเทศชาติมายาวนาน
“พระองค์ทรงประกอบพระราชกรณียกิจอย่างทุ่มเทมานานกว่า 30 ปี ทรงแสดงถึงความเห็นอกเห็นใจต่อทุกข์ยากของปวงชนประหนึ่งเป็นทุกข์ของพระองค์เอง ข้าพเจ้าขอแสดงความคารวะและชื่นชมสูงสุดไว้ ณ ที่นี้”
นายอาเบะ นายกรัฐมนตรีกล่าวตอบเพื่อรับสนองพระบรมราชโองการในนามของประชาชนญี่ปุ่นทั้งประเทศว่า “เราทั้งปวงล้วนมุ่งมันในอันที่จะสร้างสรรค์อนาคตอันสดใสสำหรับชาวญี่ปุ่นให้ได้ภาคภูมิใจ อนาคตที่เต็มไปด้วยสันติและความหวัง ในห้วงเวลาที่สถานการณ์ระหว่างประเทศกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงเช่นในเวลานี้”
เอเอฟพีระบุว่า บรรยากาศในกรุงโตเกียวเปลี่ยนแปลงไปจากวันสละราชสมบัติก่อนหน้านี้ที่มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ในวันขึ้นครองราชย์ของจักรพรรดินารุฮิโตะ ท้องฟ้าสดใส แดดดีเป็นเหตุให้มีชาวญี่ปุ่นจำนวนมากออกเดินทางไปร่วมเฉลิมฉลองกันในหลายสถานที่ รวมทั้งบริเวณศาลเจ้าเมจิ ใจกลางกรุงโตเกียว ซึ่งมีการเสิร์ฟสาเกฟรี ให้กับทุกคน ก่อนหน้าที่จะมีการแสดงโชว์การขี่ม้ายิงธนูอีกด้วย
ทั้งนี้สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ มีกำหนดจะปรากฏพระองค์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกในวันที่ 4 พฤษภาคมนี้ โดยในวันที่ 4 พฤษภาคม จักรพรรดินารุฮิโตะ และจักรพรรดินี มาซาโกะ จะเสด็จฯ ออก ณ พระราชวังอิมพีเรียล เพื่อทรงพบปะกับพสกนิกรเป็นครั้งแรกให้บรรดาประชาชนได้ร่วมถวายพระพรชัยมงคล ตั้งแต่เวลา 10.00 น. รวมทั้งสิ้น 6 รอบ โดยคาดว่าจะมีประชาชนไม่น้อยกว่า 100,000 คนเดินทางไปเข้าร่วมถวายพระพรในครั้งนี้
