ยอดการส่งออกนาฬิกาของสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งถือเป็นสินค้าส่งออกหลักที่สำคัญและได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลกประสบภาวะถดถอยครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังทำสถิติเติบโตต่อเนื่องมาตลอด ทั้งนี้สภาอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสระบุว่า ยอดขายนาฬิกาในปีที่ผ่านมาลดลง 3.3% อยู่ที่ 21.5 พันล้านฟรังก์สวิส หรือราว 763,200 ล้านบาท หลังจากที่ทำสถิติยอดขายโตสูงสุดในปี 2557 ที่ 22.2 พันล้านฟรังส์สวิส
การลดลงของยอดส่งออกในปี 2558 ถือเป็นครั้งแรกหลังวิกฤตเศรษฐกิจโลกในปี 2552 โดยปัจจัยหลักที่ทำให้ยอดขายลดลงมาจากความต้องการของตลาดในเอเชีย ซึ่งถือเป็นตลาดหลักของนาฬิกาสวิสลดลงเหลือเพียงครึ่งเดียวเมื่อเทียบกับยอดการส่งออกในปี 2557 โดยเฉพาะในตลาดฮ่องกงซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่ที่ครองส่วนแบ่งของยอดขายถึง 22.9% ในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการอัตราแลกเปลี่ยนรวมถึงแนวโน้มของผู้บริโภค ขณะที่ยอดขายในตลาดจีนก็ลดลง 4.7% แม้ว่ากำลังซื้อในช่วงปลายปีในจีนจะกระเตื้องขึ้นก็ตาม ปัจจัยสำคัญคือนโยบายการกวาดล้างการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลที่สั่งห้ามเจ้าหน้าที่รับของขวัญที่มีมูลค่าสูง อาทิ นาฬิกาหรูจากสวิตเซอร์แลนด์
ขณะที่การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ราคายางที่ตกต่ำ การก่อการร้าย ไปจนถึงการที่เงินฟรังก์สวิสมีมูลค่าสูงล้วนแต่ส่งผลกระทบกับยอดการส่งออกนาฬิกาทั้งสิ้น และคาดว่าแนวโน้มดังกล่าวจะลากยาวต่อเนื่องจนส่งผลกระทบกับอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิสในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 ด้วย