เหตุโจมตีในซาอุฯหนุนน้ำมันดิบปิดพุ่งขึ้น 1.2%

REUTERS/Toru Hanai/File Photo

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 1% ในวันอังคาร (14 พ.ค.) หลังจากซาอุดีอาระเบียระบุว่า เครื่องบินไร้คนขับที่บรรทุกระเบิดของกลุ่มฮูตี ซึ่งเป็นกลุ่มนักรบในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน ได้โจมตีสถานีส่งน้ำมันสองแห่งของบริษัทอารามโค ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย

ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 74 เซนต์ หรือ 1.2% มาปิดตลาดที่ 61.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนทะยานขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 1.4% สู่ 71.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยค่าพรีเมียมของระดับปิดน้ำมันดิบเบรนท์เหนือน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 9 สัปดาห์

ซาอุดีอาระเบียระบุว่า เครื่องบินไร้คนขับได้โจมตีสถานีส่งน้ำมัน 2 แห่งในซาอุดีอาระเบียเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม และสิ่งนี้ถือเป็นการก่อการร้าย “อย่างขี้ขลาด” หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำของซาอุดีอาระเบียได้ถูกโจมตีเช่นกันที่บริเวณนอกชายฝั่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ทางด้านหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐคาดว่า กองกำลังที่สนับสนุนอิหร่านอาจจะเป็นผู้โจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน แต่ไม่ใช่กองกำลังของรัฐบาลอิหร่านเอง ทางด้านเจ้าหน้าที่อิหร่านปฏิเสธความรับผิดชอบในกรณีนี้

หลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันที่ 14 พ.ค. การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน ได้เปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค. โดยระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 8.6 ล้านบาร์เรล สู่ 477.8 ล้านบาร์เรล ถึงแม้นักวิเคราะห์ในโพลล์รอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 800,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

Advertisement

กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุในวันเดียวกันว่า อุปสงค์ในน้ำมันโอเปกจะอยู่ในระดับที่สูงเกินคาดในปีนี้ ในขณะที่ประเทศนอกโอเปกชะลอการปรับเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมัน ซึ่งรวมถึงบริษัทผู้ผลิตน้ำมันหินเชลในสหรัฐ และสิ่งนี้อาจจะส่งผลให้ตลาดตึงตัวมากยิ่งขึ้น ถ้าหากกลุ่มโอเปกไม่ปรับเพิ่มการผลิต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image