สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า กระทรวงนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมของจีน เผยเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคมว่า 4 เดือนแรกของปีนี้สภาวะมลพิษทางอากาศในภูมิภาคตอนเหนือของประเทศจีน ได้เพิ่มสูงขึ้น โดยในช่วงดังกล่าวมณฑลเหอเป่ย กรุงปักกิ่ง และเทียนจิน มีปริมาณของหมอกควันเพิ่มสูงขึ้น 8 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นการประเมินจากค่าฝุ่นละออง พีเอ็ม2.5 ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในมลพิษที่อันตรายที่สุด
โดยปักกิ่ง เทียนจิน และเหอเป่ย มีค่าเฉลี่ยของพีเอ็ม 2.5 อยู่ที่ 81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนเมืองต่างๆ 337 เมืองที่สำรวจ ค่าเฉลี่ยพีเอ็ม 2.5 ในช่วง 4 เดือนแรกไม่เปลี่ยนแปลง คืออยู่ที่ 49 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งค่ามาตรฐานของจีนอยู่ที่ 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ข่าวระบุว่า ปริมาณมลพิษทางอากาศที่ไม่ลดลงทำให้เกรงกันว่ารัฐบาลท้องถิ่นอาจจะยังไม่ผ่อนคลายนโยบายการควบคุมปริมาณการปล่อยมลพิษในปีนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจของจีนจะชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา ขณะที่จีนต้องต่อสู้กับสงครามมลพิษติดต่อกันเป็นปีที่ 5 แล้ว
