นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทหัวเว่ย บริษัทโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน เปิดเผยกับ ‘นิกเกอิ เอเชียนรีวิว’ ของญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคมที่ผ่านมา ระบุว่า การเติบโตของบริษัทอาจช้าแต่จะเป็นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ผลจากการที่สหรัฐบรรจุหัวเว่ยเข้าบัญชีดำทางการค้าเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา
การแสดงความเห็นของซีอีโอหัวเว่ยซึ่งระบุด้วยว่ารายได้ประจำปีของบริษัทอาจเติบโตได้ไม่ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ และว่าบริษัทเตรียมรับสถานการณ์กรณีที่ถูกแบนไม่ให้ซื้อชิปของบริษัทสหรัฐอเมริกาเอาไว้แล้วนั้น มีขึ้นเป็นครั้งแรกหลังสหรัฐขึ้นบัญชีทางการค้าหัวเว่ย ซึ่งจะทำให้หัวเว่ยทำธุรกิจกับบริษัทในสหรัฐอเมริกาได้อย่างยากลำบากมาก การดำเนินการซึ่งทางการจีนแสดงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก และประกาศที่จะออกมาตรการตอบโต้
ทั้งนี้การประกาศขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยในสหรัฐมีขึ้นเนื่องจากสหรัฐกังวลว่าอุปกรณ์และสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย อาจถูกจีนใช้ในการจารกรรมข้อมูลชาวอเมริกัน ข้อกล่าวหาซึ่งหัวเว่ยปฏิเสธ และมีขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันกับที่การค้าระหว่างจีนและสหรัฐทวีความตึงเครียดมากขึ้นโดยเฉพาะการเปิดฉากสงครามการค้าด้วยการตั้งกำแพงภาษีของสหรัฐอเมริกา