เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าสหรัฐอเมริกาแสดงความกังขาว่ากองกำลังรัฐบาลซีเรียอาจใช้อาวุธเคมีที่น่าจะเป็นคลอรีนในการโจมตีเมืองอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศซีเรียเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่ยังคงเป็นที่มั่นของกลุ่มกบฎญิฮัดในซีเรีย
โดยนางมอร์แกน ออร์เทกัส โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลงเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคมว่า สหรัฐเห็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ารัฐบาลอัสซาดอาจนำอาวุธเคมีมาใช้ในการก่อเหตุโจมตีอีก ซึ่งรวมถึงการโจมตีด้วยคลอรีนในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรียเมื่อเช้าวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำลายสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณสุข โรงเรียนและบ้านเรือนที่อยู่อาศัย โดยขณะนี้สหรัฐกำลังรวบรวมข้อมูลของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ แต่ขอย้ำเตือนรัฐบาลซีเรียว่าหากพิสูจน์ได้ว่ามีการใช้อาวุธเคมีในการโจมตี สหรัฐและชาติพันธมิตรจะตอบโต้ในทันทีและอย่างเหมาะสม
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังกล่าวหาว่าเหตุโจมตีดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์โจมตีของกองกำลังรัฐบาลอัสซาด ที่เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงก่อนหน้านี้ที่มีขึ้นเพื่อปกป้องชีวิตพลเรือนหลายล้านคนที่อาศัยอยู่ในเมืองอิดลิบ
ทั้งนี้ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมาได้มีการบรรลุข้อตกลงที่จะให้การปกป้องเมืองอิดลิบ เนื่องจากความห่วงกังวลในสวัสดิภาพความปลอดภัยของพลเรือนราว 3 ล้านคนที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุมฮายัต ตาหะรี อัล-ชัม ซึ่งเป็นอดีตเครือข่ายของกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้าในซีเรียได้ยึดพื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่เอาไว้ เป็นผลให้กองกำลังรัฐบาลซีเรียโจมตีกวาดล้าง รวมถึงการส่งเครื่องบินรบของซีเรียและรัสเซียเข้าไปโจมตีทางอากาศด้วย
