สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน แถลงผ่านเว็บไซต์ของกระทรวงต่างประเทศจีนว่า การที่สหรัฐอเมริกา กดดันบริษัทจีน อย่างเช่น หัวเว่ย ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยี เป็นการกลั่นแกล้งทางเศรษฐกิจ และเป็นการเคลื่อนไหวที่พยายามที่จะป้องกันกระบวนการการพัฒนาประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีแถลงการณ์อีกชิ้นหนึ่ง ของนายหวัง ที่ระบุว่า จีนยังคงเปิดประตูสำหรับสหรัฐอเมริกาเพื่อการเจรจาการค้า แต่จะไม่ยอมรับข้อตกลงที่ไม่เท่าเทียมกัน
วันเดียวกัน มีรายงานว่า บริษัทผู้ออกแบบชิป “เออาร์เอ็ม” ของอังกฤษ ประกาศระงับการทำธุรกิจกับหัวเว่ย เพื่อทำตามคำสั่งแบนหัวเว่ยของสหรับอเมริกา โดยหัวเว่ยนั้น ใช้พิมพ์เขียวของเออาร์เอ็มในการออกแบบโปรเซสเซอร์ที่ใช้สำหรับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย เช่นเดียวกับแอปเปิลและผู้ผลิตชิปอย่างควอลคอมม์ ซึ่งในจดหมายภายในองค์กรของเออาร์เอ็มระบุว่า การออกแบบของบริษัทนั้นมีเทคโนโลยีดั้งเดิมของสหรัฐอยู่ด้วย
ด้านหัวเว่ย ออกมาแสดงความมั่นใจว่า จะสามารถแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ หลังเออาร์เอ็มประกาศระงับการทำธุรกิจร่วมกันกับหัวเว่ย โดยระบุว่า หัวเว่ยให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์อันใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ของหัวเว่ย แต่ตระหนักดีถึงแรงกกดดันที่พาร์ทเนอร์เหล่านี้ต้องเผชิญ อันเป็นผลมาจากการตัดสินใจทางการเมือง
