เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเกือบ 1% ในวันอังคาร (28 พ.ค.) หลังจากเกิดเหตุน้ำท่วมในภูมิภาคมิดเวสท์ของสหรัฐ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขนส่งน้ำมันดิบออกจากเมืองคุชชิง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันตามสัญญาในตลาด NYMEX
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือน ก.ค.ทะยานขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.9% มาปิดตลาดที่ 59.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนทรงตัวที่ 70.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
นักพยากรณ์อากาศระบุในวันอังคารว่า พื้นที่ที่ประสบภาวะน้ำท่วมในรัฐอาร์คันซอและรัฐโอคลาโฮมาจะเผชิญกับฝนตกต่อไป และจะส่งผลให้แม่น้ำอาร์คันซอมีน้ำเอ่อล้นมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยขณะนี้มีฝนตกไปแล้วเป็นปริมาณ 19 นิ้ว (48 เซนติเมตร) ในบางส่วนของรัฐโอคลาโฮมาในเดือน พ.ค.
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กับชาติพันธมิตร หรือที่เรียกรวมกันว่ากลุ่มโอเปก+ จะประชุมกันในวันที่ 25-26 มิ.ย.เพื่อหารือเรื่องนโยบายการผลิตน้ำมัน แต่ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มโอเปก+ จะต่ออายุมาตรการปรับลดการผลิตน้ำมันหรือไม่ ทั้งนี้ นายยีน แมคจิลเลียน รองประธานฝ่ายวิจัยตลาดของบริษัทเทรดิชัน เอ็นเนอร์จีกล่าวว่า ซาอุดิอาระเบียดูเหมือนจะสนับสนุนให้มีการต่ออายุข้อตกลง ในขณะที่ปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น
นักลงทุนยังคงกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอาจจะส่งผลลบต่อเศรษฐกิจโลก และจะส่งผลลบต่อปริมาณการใช้เชื้อเพลิงด้วย
