ความวิตกกังวลเรื่องสงครามการค้า กดราคาน้ำมันดิบร่วง

เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในวันพุธ (29 พ.ค.)ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวน โดยราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากการดิ่งลงของตลาดหุ้น ในขณะที่จีนส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมที่จะยกระดับการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนเข้ามาบ้างจากความขัดแย้งทางการเมืองในภูมิภาคตะวันออกกลาง และจากมาตรการจำกัดการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

โดยราคาน้ำมันดิบสหรัฐส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 33 เซนต์ หรือ 0.6% มาปิดตลาดที่ 58.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากราคาร่วงลงแตะ 56.88 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับลง 66 เซนต์ หรือ 0.9% สู่ 69.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 68.08 ดอลลาร์

ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนประกาศเตือนสหรัฐในวันพุธว่า จีนพร้อมจะใช้แร่หายากในการตอบโต้สหรัฐในสงครามการค้า โดยแร่หายากคือกลุ่มธาตุ 17 ธาตุที่ใช้ในการผลิตสินค้าหลายอย่าง ซึ่งรวมถึงสินค้าไฮเทคสำหรับผู้บริโภค และอุปกรณ์ทางการทหาร ทั้งนี้ ความกังวลเรื่องสงครามการค้ากระตุ้นให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงหุ้นและน้ำมัน และกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเยอรมนีและสหรัฐในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

โดยหลังจากตลาด NYMEX ปิดทำการในวันพุธ การปิโตรเลียมของสหรัฐ (API) ซึ่งเป็นหน่วยงานของเอกชน รายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 5.3 ล้านบาร์เรล สู่ 474.4 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 พ.ค. โดยข่าวนี้ช่วยหนุนราคาน้ำมัน

Advertisement

แหล่งข่าวกล่าวว่า ปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านในเดือนพ.ค.ดิ่งลงสู่ระดับราว 400,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งต่ำกว่าครึ่งหนึ่งของยอดส่งออกในเดือนเม.ย. หลังจากสหรัฐคุมเข้มมาตรการคว่ำบาตรน้ำมันอิหร่าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image