สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีด้านอสังหาริมทรัพย์ ว่าที่ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปราศรัยหาเสียงโดยพูดถึงเรื่องนโยบายในการสร้างกำแพงกั้นเขตแดนและการเนรเทศผู้อพยพออกนอกประเทศ ที่เมืองแซนดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ถือเป็นช่องทางผ่านแดนที่คับคั่งที่สุดของสหรัฐ
สถานการณ์ในศูนย์ประชุมแซนดิเอโกที่นายทรัมป์ กล่าวคำปราศรัยต่อหน้ากลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนมากดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ขณะเดียวกัน ด้านนอกก็มีการชุมนุมต่อต้านทรัมป์ที่มีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1,000 คน โดยมีการเดินขบวน โห่ร้อง พร้อมชูป้ายที่มีข้อความคัดค้านนโยบายการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายและโบกธงชาติสหรัฐและธงชาติเม็กซิโก โดยหลังจากนายทรัมป์ปราศรัยหาเสียงเสร็จ มีการเผชิญหน้ากันระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้านด้วย แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้น
ทั้งนี้แซนดิเอโก เป็นเมืองชายแดนของสหรัฐที่ติดกับเม็กซิโก ถือเป็นเมืองที่ผู้คนทั้ง 2 สัญชาติอยู่อาศัยและทำงานทั้ง 2 ฝั่งชายแดน และราว 1 ใน 3 ของประชากรที่อยู่ในเมืองนี้เป็นชาวละติน โดยมีผู้ที่เข้าออกเมืองอย่างผิดกฎหมายระหว่างทั้ง 2 ประเทศทางช่องทางผ่านแดนแซนอิซิโดรเกือบ 300,000 คนต่อวัน
วันเดียวกัน นายทรัมป์ออกแถลงการณ์ยกเลิกการดีเบตหรือโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์กับนายเบอร์นี แซนเดอร์ส วุฒิสมาชิกรัฐเวอร์มอนต์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตสู้ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
แนวคิดในการจัดการดีเบตนี้ เกิดขึ้นในทอล์กโชว์รายการหนึ่งที่นายทรัมป์ไปออกรายการ โดยจะเป็นการระดมทุนเพื่อการกุศล แต่แค่เพียง 1 วันหลังจากที่ทรัมป์แสดงความยินดีที่จะเข้าร่วม เขากลับเปลี่ยนใจและปฏิเสธ โดยบอกว่าจะดีเบตกับผู้ชนะที่ได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตที่คาดว่าจะเป็นนางฮิลลารี คลินตัน อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเท่านั้น
