สำนักข่าวรอยเตอร์ายงานว่า ราคาน้ำมันดิบที่ซื้อขายกันเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ลดลงไปถึง 1.5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าต่ำสุดในรอบเกือบ 3 เดือน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศเม็กซิโก ทำให้ความหวาดว่าจะกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก
โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ล่วงหน้า อยู่ที่ 65.86 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา และต่ำกว่าราคาเดือนที่แล้วกว่า 1 ดอลลาร์ หรือราว 1.5 เปอร์เซ็นต์
ส่วนราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าตลาดเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท (ดับเบิลยูทีไอ) อยู่ที่ 55.78 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ลดลง 81 เซนต์ หรือ 1.5 เปอร์เซ็นต์จากราคาปิดตลาดก่อนหน้า โดยราคาต่ำสุดของดับเบิลยูทีไอก่อนหน้านี้คือมเอวันที่ 8 มีนาคมปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 55.66 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
ข่าวระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงเป็นผลมาจากการที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากเม็กซิโก จนทำให้เกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมัน
นอกจากนี้ น้ำมันดับยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการสต็อกน้ำมันที่ลดลงกว่าคาดของสหรัฐอเมริกา โดยสำนักงานข่าวสารพลังงาน (อีไอเอ) ของสหรัฐ ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐได้ลดลงไปเกือบ 300,000 บาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลกอย่างซาอุดีอาระเบียได้เพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่ยังไม่เพียงพอกับส่วนที่ขาดหายไปจากการส่งออกน้ำมันที่น้อยลงของอิหร่าน หลังจากสหรัฐเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านมากขึ้น
