สิงคโปร์ 9 ใน 10 เชื่อติดกล้องในรถช่วยปกป้องผลประโยชน์ “ผู้โดยสาร-คนขับรถ”

แฟ้มภาพเอเอฟพี

สเตรทส์ไทม์สรายงานว่า ผลสำรวจความคิดเห็นชาวสิงคโปร์ ที่มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป จำนวน 1,000 คน จัดทำโดย “รีช” ที่ทำการสำรวจในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาและเผยแพร่เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนชี้ว่า ชาวสิงคโปร์ 9 ใน 10 มองว่ากล้องติดในรถเป็นสิ่งที่จะช่วยปกป้องผู้โดยสารและคนขับรถในเหตุความรุนแรงหรือสถานการณ์ที่ไม่เหมาะสมที่อาจเกิดขึ้นได้

ขณะที่ชาวสิงคโปร์ 6 ใน 10 เห็นว่าควรให้รถแท็กซี่ รถยนต์ให้เช่าและรถลีมูซีน ติดตั้งกล้องบันทึกภาพในรถได้ และ 9 ใน 10 ยังบอกว่ากล้องติดในรถดังกล่าวควรจะมีเสียงด้วย เพราะจะนำมาใช้ประโยชน์ในทางกฎหมายได้

ทั้งนี้รถแท็กซี่ รถยนต์ให้เช่าและรถลีมูซีนในสิงคโปร์สามารถติดตั้งกล้องหน้าในรถตามข้อกำหนดของสำนักงานขนส่งทางบก(แอลทีเอ)ของสิงคโปร์ได้ และตั้งแต่ปี 2015 สมาคมรถแท็กซี่ของสิงคโปร์ได้รณรงค์ให้ติดกล้องในรถเพื่อรับมือหากเกิดกรณีผู้โดยสารก่อกวนหรือกระทำสิ่งไม่เหมาะสมหรือเบี้ยวจ่ายค่าโดยสาร

ด้านคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสิงคโปร์ระบุว่าผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์ให้มีการบันทึกภาพ สามารถเลือกที่จะไม่ใช้บริการรถที่ติดกล้องได้ ขณะที่บริษัทผู้ให้บริการและคนขับรถจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยมากเพียงพอที่จะปกป้องข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคหรือไม่เช่นนั้นจะเผชิญโทษปรับเป็นเงินสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์ได้

Advertisement

ส่วนรัฐมนตรีคมนาคมสิงคโปร์ระบุว่าแอลทีเอจะนำผลสำรวจที่ได้นี้ นำไปประกอบการพิจารณาทบทวนกฎระเบียบเรื่องการติดกล้องในรถต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image