เตือนโลกร้อน จะทำให้สัตว์ใต้ทะเลหายไป 17 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผลการวิจัยที่เผยแพร่ในวารสารโพรซีดิงส์ ออฟ เดอะ เนชั่นแนล อคาเดมี ออฟ ไซน์ซ ของสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ทำให้โลกมีอุณหภูมิสูงขึ้น 3-4 องศาเซลเซียส เมื่อเทียบกับช่วงก่อนหน้ายุคอุตสาหกรรม จะทำให้สัตว์ใต้ท้องทะเล ตั้งแต่แพลงตอนขนาดเล็กไปจนถึงวาฬหนักร้อยตัน หายไปจากท้องทะเลถึง 17 เปอร์เซ็นต์
ผลการวิจัยยังระบุด้วยว่า ปัจจุบันอุณหภูมิบนพื้นผิวโลกได้เพิ่มสูงขึ้นเต็ม 1 องศาเซลเซียสแล้ว ขณะที่ปลาขนาดใหญ่และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมใต้ท้องทะเลที่ล้มตายไปจำนวนมาก เนื่องจากการทำประมงที่มากเกินไป มลพิษ และโดนเรือชน ทำให้จำนวนสิ่งมีชีวิตเหล่านี้ลดลงไปจำนวนมาก ท่ามกลางอุณหภูมิในมหาสมุทรที่ยังคงเพิ่มสูงขึ้น
ในรายงานระบุว่า แม้แต่ในกรณีที่ดีที่สุด คืออุณหภูมิโลกสูงขึ้นไม่เกิน 2 องศาเซลเซียส ตามเป้าหมายของความตกลงปารีส จำนวนสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรก็จะลดลงไปถึง 5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ปะการังน้ำตื้น ซึ่งเป็นที่อยู่ของสิ่งมีชีวิตใต้น้ำถึง 30 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด อาจจะหายสาบสูญไปเกือบทั้งหมดภายใต้สภาวะดังกล่าว และอุณหภูมิที่สูงขึ้นทุกๆ 1 องศาเซลเซียส จะทำให้สิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรต้องหายไปพิ่มอีก 5 เปอร์เซ็นต์
อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่า บางพื้นที่บนโลกอาจจะต้องเผชิญกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อย่างในเขตร้อนจำนวนสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรจะลดลงไปถึง 40-50 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการคาดการณ์ว่า ภายในปี ค.ศ.2100 อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นราว 4 องศาเซลเซียส
