เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นางแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประกาศระงับการเสนอร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแล้ว หลังจากเผชิญกระแสต่อต้านอย่างหนักจากกลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงที่ออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังต่อต้านจนลุกลามกลายเป็นเหตุปะทะรุนแรงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ส่งผลให้ใจกลางเกาะฮ่องกง ศูนย์กลางการเงินในเอเชียแห่งนี้ต้องกลายเป็นอัมพาต
โดยผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกงแถลงต่อผู้สื่อข่าวในวันนี้ว่ารัฐบาลตัดสินใจระงับการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้และจะเริ่มติดต่อพูดคุยกับทุกภาคส่วนในสังคม ในการทำงานให้มากขึ้นและรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างในสังคมมากขึ้น และว่า รัฐบาลจะปรึกษาหารือกับคณะทำงานด้านความมั่นคงของสภานิติบัญญัติก่อนที่จะตัดสินใจในการก้าวต่อไป
การตัดสินใจระงับแผนการผลักดันร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนนี้เข้าสู่สภาของรัฐบาลฮ่องกงมีขึ้นหลังจากนางหล่ำได้จัดประชุมฉุกเฉินกับคณะที่ปรึกษาเพื่อหารือถึงทางออกของปัญหานี้เมื่อวันศุกร์(15 มิ.ย.) ที่มีรายงานว่านางหล่ำเผชิญความกดดันจากสมาชิกภายในพรรคการเมืองของตนเองที่มีส่วนหนึ่งเรียกร้องให้เลื่อนการพิจารณาร่างกฎหมายนี้ออกไปก่อนเพื่อให้กระแสความไม่พอใจของประชาชนบรรเทาลง ขณะที่ส.ส.อีกกลุ่มนำโดยนางเรจีนา อิป ส.ส.ฝักใฝ่จีน แย้งเตือนว่าหากรัฐบาลยอมจำนนต่อความรุนแรงและอิทธิพลจากภายนอกแล้ว ในระยะยาวจะทำให้รัฐบาลปกครองไม่ได้
อย่างไรก็ดีแม้รัฐบาลฮ่องกงจะยอมถอยก้าวหนึ่งในการระงับแผนการพิจารณาร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้แล้ว แต่แกนนำกลุ่มผู้ประท้วงยังประกาศที่จะเดินหน้าแผนการชุมนุมประท้วงในวันอาทิตย์ที่ 16 มิถุนายนนี้ต่อไปจนกว่ารัฐบาลจะยอมถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ที่สร้างความแตกแยกขึ้นในสังคมออกไปทั้งหมด
ทั้งนี้รัฐบาลฮ่องกงตกอยู่ภายใต้ความกดดันอย่างหนักจากกลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่ผู้ประท้วงมองว่าร่างกฎหมายนี้จะเป็นการเปิดทางให้มีการส่งตัวผู้ต้องสงสัยชาวฮ่องกงและชาวต่างชาติที่เป็นที่ต้องการตัวไปให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ ซึ่งการประท้วงต่อต้านร่างกฎหมายฉบับนี้ที่มีมาตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับจากฮ่องกงถูกส่งมอบอยู่ใต้อาณัติของจีนในปี 2540