สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คณะทำงานขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ตัดสินใจที่จะไม่ประกาศเป็น “ภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศ” ต่อกรณีการระบาดของโรคอีโบลาหรือไข้เลือดออกอีโบลาในประเทศคองโก แม้จะพบการระบาดของโรคนี้ลามไปถึงประเทศยูกันดาแล้วก็ตาม
ในแถลงการณ์ของคณะผู้เชี่ยวชาญอิสระจำนวน 13 คนของคณะกรรมาธิการภาวะฉุกเฉินของฮูเผยแพร่เมื่อวันศุกร์ (14 มิถุนายน) ระบุเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านของคองโกที่มีความเสี่ยงภัย ปรับปรุงการเตรียมการในการตรวจหาและจัดการกรณีพบผู้ติดเชื้ออีโบลาที่นำเข้ามาดังที่ประเทศยูกันดาได้ทำมาแล้ว และว่า นี่ไม่ใช่ภาวะฉุกเฉินของโลก แต่เป็นภาวะฉุกเฉินในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่มีการแพร่ระบาดของโรคอีโบลาที่อาจแพร่ลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้
ดอกเตอร์เพรเบน อวาวิทส์แลนด์ ประธานคณะทำงานชุดนี้ของฮู กล่าวว่า เป็นความเห็นของคณะทำงานที่ยังไม่เห็นว่าจะต้องประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งการประกาศเช่นนั้นมีความเสี่ยงที่จะทำให้มีการเข้มงวดเรื่องการเดินทางหรือการค้าที่อาจจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกได้
ด้านนายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ฮู กล่าวว่า การระบาดของไวรัสอีโบลาในประเทศยูกันดาเป็นพัฒนาการใหม่ แต่พลวัตพื้นฐานของการระบาดของโรคนี้นั้นยังไม่ได้เปลี่ยนไปแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สถานการณ์ระบาดของโรคอีโบลาในประเทศคองโกครั้งนี้ถือเป็นครั้งเลวร้ายครั้งที่ 2 แล้วของคองโกที่มีรายงานผู้ป่วยโรคอีโบลา จำนวน 2,108 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,411 ราย นับจากเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ก่อนที่จะพบลามไปถึงประเทศยูกันดาที่พบผู้ป่วยอีโบลา 3 ราย ซึ่งทั้งหมดเดินทางมาจากคองโก โดย 2 รายในจำนวนนี้เสียชีวิต