อิรักฮือไล่รัฐมนตรี หลังไฟดับท่ามกลางอากาศร้อนจัดสูงถึง 48 องศาเซลเซียส

(Photo by AHMAD AL-RUBAYE / AFP)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ชาวเมืองบัสรา และเมืองดิวานิเยาะห์ ทางตอนใต้ของประเทศอิรักประเทศซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่ร้อนจัดที่สุดในโลกหลายนับพันคน พากันออกมาเดินขบวนประท้วงสภาพการขาดแคลนไฟฟ้าขณะที่สภาพอากาศในฤดูร้อนทั่วประเทศร้อนจัดเป็นพิเศษในปีนี้ ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยาแถลงเมื่อวันที่ 15 มิถุนายนนี้ระบุว่า อุณหภูมิเฉลี่ยของอิรักในเดือนมิถุนายนสูงขึ้นไปอยู่ที่ 48 องศาเซลเซียส เพิ่มขึ้นจากอุณหภูมิเฉลี่ยของช่วงเวลาเดียวกันเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่เพียง 40 องศาเซลเซียสมากผิดปกติ และมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ อีกด้วย

การเดินขบวนประท้วงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่นาย ลออี อัล-คาทีป รัฐมนตรีกิจการไฟฟ้าให้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้ว่า จะดำเนินการทุกอย่างเพื่อให้โรงงานไฟฟ้าของรัฐสามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับประชาชนได้ 20 ชั่วโมงต่อวัน แต่เมื่อถึงหน้าร้อนเข้าจริงกลับสามารถจ่ายไฟฟ้าเพื่อให้สามารถใช้งานเครื่องปรับอากาศสำหรับคลายความร้อนได้เพียง 12 ชั่วโมงต่อวันเท่านั้นเอง เกิดไฟฟ้าดับและมีการตัดไฟขึ้นบ่อยๆ ในบางพื้นที่เช่นที่มี ดีคาร์ เกิดไฟดับมากถึง 17 ครั้งต่อวัน

สภาพร้อนจัดและขาดแคลนไฟฟ้าดังกล่าวนอกจากจะส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาลที่ไม่สามารถใช้งานระบบระบายอากาศได้แล้วยังกระทบต่อการใช้ชีวิตของประชาชน ที่ต้องปรับเปลี่ยนการดำรงชีวิต ตั้งแต่การเปลี่ยนเวลาทำงาน เวลาเปิดปิดห้างสรรพสินค้า เรื่อยไปจนถึงการนำเสื้อผ้าสะอาดใส่รถไว้เพื่อเปลี่ยนตอนกลางวันและการเปลี่ยนช่วงเวลาออกไปรับประทานอาหารค่ำไปเป็นเที่ยงคืนหรือหลังจากนั้นเมื่ออากาศร้อนบรรเทาลงสู่ระดับ 35 องศาเซลเซียสเป็นต้น

ปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าของอิรักนอกจากจะเกิดขึ้นจากการขาดแคลนโรงไฟฟ้าและพลังงานแล้วยังเกิดเพราะสภาพเก่าเกินไปของโครงข่ายจ่ายกระแสไฟฟ้าทำให้เกิดการสูญเสียระหว่างการจ่ายกระแสไฟฟ้าหลงเหลือไปถึงบ้านเรือนเพียง 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image